Tuesday, November 25, 2008

RaiN*สายฝน...วันหัวใจพบรัก* ตอนที่13

++++++++

ฉันเขี่ยข้าวในจานเล่นอยู่ที่โต๊ะอาหารอย่างเหม่อลอยและกลัดกลุ้มโดยมีอากิระมองตาไม่กระพริบ

“ เธอเป็นอะไรรึเปล่า “
“ ฉันเปล่านี่ สบายดี ทำไมเหรอ “
“ ไม่ใช่อะไรหรอก ^^ เห็นปกติเธอกินข้าวเหมือนจะกลืนชามลงไปด้วย ฉันแปลกใจน่ะก็เลยถาม “
“ -_-^^ “
“ พรุ่งนี้ ^^ เธอว่างรึเปล่า “
“ ทำไมอีกล่ะ “
“ ฉัน -_- ก็แค่เห็นว่าตั้งแต่คบกันมาเรายังไม่เคยเดทกันเลย ตกลงเธอว่างรึเปล่า “

ฉันยิ้ม โลกทั้งใบดูเป็นสีชมพู ^O^
“ ว่างสิ “
“ งั้นดีเลย สร้อยล่ะ “
“ สร้อยอะไร -_- “

อากิระล้วงเข้าไปในคอเสื้อฉัน O_O ก่อนจะดึงสร้อยที่เขาซื้อให้ฉันออกมา

“ ป้าความจำสั้น -_- ฉันอุตส่าห์ซื้อให้ แต่เธอลืมมันไปแล้วงั้นเรอะ “

เขาพูดพลางทำหน้าไม่พอใจ ก่อนจะเขกหัวฉันเบาๆ

“ พรุ่งนี้ ^^ ฉันจะไปรับเธอที่บ้าน ไม่มีข้อแม้ใดๆทั้งสิ้น! “ เขาพูดดักคอฉัน ก่อนจะทำหน้าโหดใส่ “อ้อ อย่าลืมใส่สร้อยไปด้วยนะ ไม่งั้นเธอตาย! แล้วอย่าให้รู้นะ. . .ว่าเธอกับยูคิแอบคิดไม่ซื่อกัน ฉันล่ะหวั่นชะมัดเพราะเธอนั่งข้างหมอนั่น! “

ก่อนที่เขาจะเริ่มกินข้าวตรงหน้าของเขาโดยไม่พูดไม่จา ชิ! นายทำตัวไม่น่าไว้ใจกว่าฉันอีกนะยะ

+++++++

“ ฝนตก! ให้ตายเหอะ! หน้าฝน! โอ้พระเจ้า! เดทของฉ๊าน “

อากิระคร่ำครวญดังลั่นใส่ฉันในวันเดทที่เราอุตส่าห์นัดหมายกันอย่างดี -_- ชายหนุ่มอารมณ์ร้อนหัวเปียกราวกับลูกหมาตกน้ำเพราะไม่มีร่ม ส่วนฉันยังอยู่ในสภาพแห้งสนิทดีอยู่ทุกประการ


แต่นั่นก่อนที่เขาจะมา


อากิระจัดการสะบัดหัวเขาแรงๆจนน้ำกระเด็นใส่ฉันซู่ราวกับหมาสะบัดขน -*- แล้วดึงร่มฉันออกจากมือโดยให้เหตุผลว่า

“ ฉันเปียกแล้วนะ! เธอจะไม่เปียกเป็นเพื่อนสามีคนนี้หน่อยเรอะ “

เอาเหอะย่ะ -_- ฉันจะยอมนายซักวันก็แล้วกัน

“ เราจะไปไหนกันเหรอ “ ฉันถามหลังจากบีบน้ำออกจากผมพลางมองร่มในมือเขาตาละห้อย

“ ไปไหนดีล่ะในวันฝนตก “ อากิระทำหน้าครุ่นคิด “ ไปที่บ้านฉันละกัน “

“ นายใช้อะไรคิดยะ -_-^ “
“ แล้วจะให้ไปไหนเล่า “
“ ที่ไหนก็ได้ที่มีหลังคาซี่ -_-^^ ใจคอนายจะเดินตากฝนต่อรึไงกันห๊า “
“ โธ่เอ้ยยัยป้าไร้ความคิด! ไม่รู้เอาซะเลยว่าเดทท่ามกลางสายฝนน่ะมันโรแมนติกขนาดไหน >_< “

ขนาดที่ฉันคงต้องนอนซมอยู่กับบ้านเพราะพิษไข้น่ะสิ

“ ไม่เอา >< งั้นฉันกลับนะ “ ฉันร้อง “ ฉันไปที่ไหนก็ได้ ที่ ที มี หลัง คา! “

ฉันเน้นหนักทุกพยางค์กรอกหูอากิระจนเขาทำท่าอยากจะหักคอฉัน ก่อนที่เขาจะเริ่มลากฉันไปโดยที่ฉันเริ่มจะรู้สึกมึนหัวขึ้นมาตงิดๆ -*- อาจจะเป็นเพราะเราอยู่ใกล้กันมากจนฉันได้กลิ่นราเม็งโชยมาแตะจมูก -*- เอ้ะ ฉันนี่ยังไงเนี่ย อยู่ใกล้อากิระแต่คิดถึงของกิน >_<

เขาพาฉันหลบอยู่ที่หน้าห้างฯ อ้า! มีหลังคา >< นั่นแหละที่ฉันต้องการ

“ เป็นไง พอใจรึยัง ที่ ที่ มี หลัง คา! “

เขาพูดตะโกนกรอกหูฉันบ้าง แต่ก่อนที่ฉันจะเริ่มอ้าปากเถียง เสียงโทรศัพท์เขาก็ดัง

ปิ้บ
“ อะไรวะ! “

ปกติเขารับโทรศัพท์น่ากลัวแบบนี้ทุกครั้งรึเปล่าเนี่ย -_-

สีหน้าอากิระเปลี่ยนไป ก่อนที่จะตามมาด้วยเสียงอ่อนลงกว่าเดิมอย่างไม่น่าไว้ใจ
“ ตอนนี้เหรอ -_- ไม่ได้ ฉันติดธุระ “

อืมส์. .. เรื่องนี้กลิ่นทะแม่งๆ สังหรณ์ของผู้หญิงมักจะไวเสมอ ฉันว่า. . .

“ ไม่ได้หรอกซากุระ -_-^ ธุระอะไรก็เรื่องของฉันน่า “

อ่ะฮ้า~ ลางสังหรณ์ฉันถูกเผงเลยแฮะ ยัยซากุระยังคงตามจิกฉันอย่างไม่ลดละสินะ -_- เจอกันครั้งแรกยังเป็นสาวน้อยรุ่นน้องผู้น่ารักอยู่เลย ทำไมจู่ๆแปลงกายเป็นเด็กนรกแบบนี้ได้

“ ฉันอยู่กับใคร? ริคุริน่ะสิ “ อากิระขมวดคิ้ว “ ฉันไปหาเธอตอนนี้ไม่ได้“

ท่าทางฉันจะชนะแฮะ ฮ่าๆ

“ อะไรนะ! แล้วทำไมไม่ไปหาหมอเล่า เธอโง่รึเปล่า “ อากิระพูดเสียงร้อนรนมากขึ้น ทุกๆคำพูดของเขาเจือด้วยความห่วงใย “ อยู่บ้านคนเดียว! ไปตายซะยัยซื่อบื้อเอ๊ย เธอไม่รู้ตัวเองรึไงว่าขี้โรค! “


ลางสังหรณ์ของฉันเริ่มทำงานอีกแล้ว คราวนี้. . .

“ เธอรออยู่ที่นั่น! เดี๋ยวฉันจะรีบไปหา! “

ให้ตายเหอะ!

“ เธอรอฉันอยู่ที่นี่ได้ใช่มั้ย “ อากิระพูดเสียงร้อนรน “ ฉันต้องรีบไปเดี๋ยวนี้ “
“ ไปหาซากุระเหรอ. . . “
“ ใช่ “

อากิระจ้องแน่วแน่มาที่ดวงตาของฉัน -_- อะไรยะ อย่างกับฉันเป็นตัวร้ายที่เหนี่ยวรั้งพระเอกเอาไว้เลย เรื่องนี้ฉันเป็นนางเอกแน่รึเปล่าเนี่ย TT_TT

“ นายจำเป็นต้องไปเหรอ “ ฉันถามเบาๆ
“ ซากุระอยู่บ้านคนเดียว ไข้ขึ้นสูง เธอไม่มีใคร. . . ”

. . .เฮ้อ

“ นายไปเถอะ “
“ เธอรออยู่ก่อนได้ ^^ ใช่มั้ย? “

ยังจะมีหน้ามาถามอีก สมองของหมอนี่มันทำด้วยอะไรนะ ฉันล่ะอยากจะแหวกออกมาดูซะจริง

“ ฉันรอได้ นายรีบไปเถอะก่อนที่ซากุระจะตายซะก่อน “
“ เดี๋ยวฉันมา “

แล้วอากิระก็วิ่งฝ่าสายฝนไปอย่างร้อนรน TT_TT ทำไมฉันต้องมาเสียใจภายหลังด้วยล่ะเนี่ย

ถ้าฉันป่วยบ้าง. . .เขาจะเป็นแบบนี้มั้ยนะ




อากิระเปิดประตูบ้านซากุระเข้าไปอย่างร้อนรน บ้านปิดไฟเงียบราวกับไม่มีใครอยู่ ชายหนุ่มรู้สึกเป็นห่วงซากุระมาก พลางควานหาสวิตช์ไฟและเปิดมันทุกดวง

“ ซากุระ. . “

ซากุระนอนฟุบอยู่ที่โซฟา ใบหน้าเล็กๆนั้นซีดเซียวราวกับกระดาษ ผมสีน้ำตาลซึ่งผ่านการย้อมปรกใบหน้าของเธอ อากิระถลาเข้าไปหาอย่างตกใจในสภาพของเธอ ชายหนุ่มแตะที่หน้าผาก ก่อนที่เขาจะต้องชักมือกลับ

“ ตัวร้อนมาก. . .ซากุระ ซากุระ! “

หญิงสาวเผยอเปลือกตาออกมาเล็กน้อย เมื่อเห็นอากิระ เธอยิ้มออกมาอย่างดีใจ “ พี่อากิระมาจริงๆด้วย “

“ อืม -_- ฉันบอกว่าจะมาก็มาสิ “

อากิระก้มมองดูนาฬิกา หนึ่งทุ่มแล้ว ริคุริไม่รู้เป็นยังไงบ้าง. . .

“ ไปโรงพยาบาลกัน เร็วเข้า เดี๋ยวฉันไปเรียกรถก่อน “
“ ไม่เอา! ฉันไม่อยากไป! “

อากิระทำหน้าตาเหมือนอยากจะกลืนซากุระเข้าไปทั้งตัวก่อนจะร้องขึ้น

“ เธอไข้ขึ้น เธอตัวร้อน เธอไม่ไปโรงพยาบาล แล้วเธอเรียกฉันมาทำเพื่อ!?! “

ซากุระจับแขนอากิระไว้แน่น ก่อนจะพูดเสียงเบา
“ อยู่กับฉัน. . .ไม่ได้เหรอคะ “


อากิระทำหน้าไม่ถูก ชายหนุ่มถอนหายใจ ก่อนจะลากเก้าอี้มานั่งข้างๆซากุระซึ่งนอนอยู่ด้วยอาการน่าเป็นห่วง
“ แป๊บเดียวเท่านั้นนะ “

ซากุระ. . ยัยเด็กขี้เอาแต่ใจ ได้ฟังคำเดียวที่ถูกใจเท่านั้น สีหน้าก็ดูร่าเริงขึ้นมาทันที
“ ค่ะ^O^ “

เวลาผ่านไปอย่างเงียบๆ อากิระคอยเฝ้าเอาผ้าเช็ดหน้าชุบน้ำมาโปะหน้าผากซากุระบ่อยๆโดยนัยน์ตาก็คอยเหลือบมองนาฬิกาอย่างร้อนรน

ริคุริรออยู่. . .

“ พี่อากิระ “ ซากุระเรียกขึ้น
“ ป่วยแล้วยังจะพูดมากอีก นอนๆซะไป๊ “ เขาพูด
“ พี่รู้มั้ยคะ -_- พี่ยูคิเขาบอกรักฉันด้วย “

อากิระหันกลับมามองหญิงสาวคอแทบเคล็ด

“ ไอ้ลูกหมายอมพูดแล้วเรอะ ฮ่าๆ “
“ แต่. . .ฉันทำเป็นเรื่องตลกไป ^^ ฉันไม่รู้จะทำยังไง “ ซากุระพูดเสียงแหบๆ
“ ... “



“ เพราะฉันชอบพี่. . . ”

อากิระถอนหายใจ ก่อนจะตอบ “ เธอไม่เป็นไรแล้วใช่มั้ย งั้นฉันกลับก่อนนะ “




ทำไมกัน! ซากุระคิดอย่างขัดใจพลางเม้มปากแน่น



“ เพราะพี่ริคุริ. . .รออยู่เหรอคะ “

อากิระนิ่งไม่ตอบ

“ แล้วทำไมไม่เป็นฉันบ้างล่ะ ฉันมาก่อนพี่ริคุริซะอีก! ทำไมพี่ไม่หันมามองฉันบ้าง พี่ริคุริเค้ามีดีอะไรกันล่ะคะ! “

อากิระนิ่งไปครู่นึง

“ ตอบมาสิคะ “

“ ริคุริ “ อากิระพูดขึ้นหลังจากครุ่นคิดคำพูดอยู่นาน “ เป็นคนป้ำๆเป๋อๆแต่ก็นิสัยดี ชอบเถียงฉันมากไปหน่อยแต่ก็น่ารัก ไม่ได้สวยเท่าเธอแต่ก็มีอะไรบางอย่างที่เธอไม่มี. .. “ เขาหยุดพูดนิดนึง

“ ซากุระ “
“ ... “


“ ริคุริคือดวงใจของฉัน “

++++++++++++


“ เธอ -_- มาทำอะไรที่นี่ “

เสียงเรียกคุ้นๆแว่วมากระทบหู ทำให้ฉันที่นั่งคุดคู้อยู่ ต้องลืมตาขึ้นมาอย่างอดไม่ได้

No comments: