“ ขอบคุณสำหรับโน้ต ^O^ “
“ โน้ต? “
“ ใช่ >_< โน้ต “
“ โน้ตอะไร “
“ โน้ตไงล่ะ!! ที่แปะไว้ที่กระเป๋านักเรียนของฉัน...”
“ เพ้ออะไรของเธอ ฉันไม่ว่างไปเที่ยวแปะโน้ตหาเธอหรอก “ อากิระพูดห้วนๆ
ตอนนี้ฉันรู้สึกเหมือนมีใครเอาเข็มแหลมๆมาจิ้มลูกโป่งความสุขที่เอ่อล้นของฉันแตกดังโผล้ะ แถมยังโดนเหยียบซ้ำอีกตางหาก
“ ฟังนะริคุริ ตอนเย็นเธอคงต้องกลับบ้านคนเดียวนะ ฉันไม่ว่าง “
“ ไปไหน “ ฉันถามด้วยความรวดเร็ว
“ ฉันต้องไปติวหนังสือให้กับรุ่นน้องหนึ่งอาทิตย์ “ อากิระพูดพลางจิ้มๆหนังสือในมือ ก่อนจะบุ้ยหน้าไปทางสมาคมแว่นตาหนาเตอะที่อยู่ข้างหลัง “ พอดีฉันโดนทำโทษควบคุมความประพฤติน่ะ -_- ฉันเลยต้องทำ “
“ หัวอย่างนายเหรอไปติวหนังสือให้รุ่นน้อง “
“ นี่เธอ -_- “ อากิระพูดเสียงรำคาญใจพลางทำหน้าเหมือนอยากเอาหนังสือในมือหวดใส่ฉันซักป้าบ “ เห็นอย่างนี้ก็เถอะ ฉันทอปเกือบทุกวิชานะ “
“ เชอะ -_-^ ฉันกลับบ้านคนเดียวก็ได้ไม่ต้องพึ่งนายหรอก “ ฉันพูดประชด “ ขอให้มีความสุขกับการติวน้องๆนะจ๊ะ! “
ฉันหมุนตัวเดินกลับห้องๆทั้งๆที่ยังไม่ได้ซื้ออะไรกินเลย และยังได้ยินเสียงอากิระตะโกนไล่หลังฉันมาว่า
“ เฮ้!! ริคุริ !! วันนี้กระโปรงเธอสวยดีนะ!! “
ฉันเพิ่งรู้ตัวว่าใส่กระโปรงผิดด้าน ///>_//
+++++++++++++++++++
ในคาบเรียนที่น่าเบื่อ ( กระโปรงถูกจัดใส่ถูกเรียบร้อยแล้ว ) ฉันตั้งสมุดขึ้นบังหน้าก่อนจะซ่อนตัวอยู่หลังหนังสือ พลางหันไปกระซิบกับยูคิ
“ ยูคิ “
“ อะไร “
“ ตอนฉันไม่อยู่ มีใครมามองๆแถวห้องบ้างรึเปล่า “
ยูคิทำท่านึก “ ไม่มี “
“ แล้วถามถึงฉันล่ะ มีบ้างรึเปล่า “
“ ไม่มีใครอยากถามถึงยัยน้ำลายยืดอย่างเธอหรอก “
เดี๋ยวนี้ฉันอุตส่าห์ไม่นอนในห้องแล้วนะ -_-^^ หยุดเรียกชื่อน่าเกลียดอย่างนั้นจะได้มั้ย
“ แล้วใครกันนะที่แอบหลงรักฉันแล้วมาแปะโน้ตไว้แบบนี้ “ ฉันพูดพลางแกว่งโน้ตไปๆมาๆก่อนจะถอนหายใจพรืด ก็นานๆจะมีซักคนนี่ ฉันก็ตื่นเต้นเป็นธรรมดา
“ หลงรักเรอะ O_O ฉันว่าเขาอาจจะสมเพชเธอจนทนไม่ได้ตางหาก “
“ นายเป็นคนเขียนรึไงล่ะ >o< ทำเป็นรู้ดีนักนะ “
“ ฉัน. .. “ ยูคิทิ้งไว้แค่นั้นก่อนจะหันไปตั้งใจเรียนต่อ
“ แล้วนายล่ะเป็นยังไง “ ฉันถามต่อหลังจากที่ความพยายามในการฟังเสียงหึ่งๆเหมือนวิทยุปรับคลื่นไม่ตรงของครูลดลงเป็นศูนย์ “ เรื่องซากุระน่ะ “
“ อย่ายุ่ง “ ยูคิพูดสั้นๆ ดวงตาจับจ้องที่ครูตาเป๋ง
“ อะไรเล๊า >_< ตัดใจได้รึยังล่ะ “
“ ... “
“ นี่รู้อะไรรึเปล่ายูคิ “ ฉันทำตาเป็นประกายใส่ “ น้องชายของฉัน ฮายามิน่ะ เค้าบอกว่านายแย่งเรตติ้งของมันไปเยอะ “ ยูคิทำลอยหน้าลอยตาไม่สนใจ “ ฉันรู้จักอยู่คนนึงนะ เค้าปลื้มนายมากเลย น่ารักมากด้วยล่ะ ^O^ สนใจบ้างมั้ย “
ยูคิทำหน้าตาย “ ไม่ “
“ นายจะเสียดายทีหลัง “ ฉันทำหน้าตาราวกับนักบุญก่อนจะพับโน้ตแผ่นนั้นลงกระเป๋า “ แล้วอย่ามากอดขาอ้อนวอนฉันล่ะ!!! “
“ ฉันว่านะ. . .”
“ เปลี่ยนใจแล้วเหรอ ^^ “
“ เปล่า ฉันจะบอกว่า เธอตายแน่ ครูมองมาที่เธอแน่ะ “
ท่ามกลางความเงีบที่เกิดในห้อง เสียงแหลมเฟี้ยวของครูของแหวกผ่านอากาศมากระทบหูฉันเข้าอย่างจัง
“ ริคุริ ออกไปยืนหน้าห้อง ออกไป!!!! “
+++++++++++++
“ ไม่อยากเชื่อเลย ไม่อยากเชื่อเลย ไม่อยากเชื่อเลย!!!! “ ฉันระเบิดออกมาในหลังจากออดในคาบเรียนมหาโหดของฉันดังขึ้น
“ ฉันก็ไม่อยากเชื่อ “ ยูคิพูดเนือยๆพลางอ้าปากหาว
“ นายก็คิดเหมือนกันใช่มั้ย ไอ้เรื่องที่ฉันโดนลงความประพฤติเนี่ยมันไม่ยุติธรรม!!! “
“ ฉันไม่อยากเชื่อว่าเธอพูดได้ไม่มีหยุดขนาดนี้ ริคุริ “ ยูคิมองฉันแปลกๆ “ ฉันรู้สึกนะ ตั้งแต่โดนปล่อยออกมาจากห้องพักครู เธอยังไม่หยุดพูดเลยแม้แต่วินาทีเดียว “
ฉันทำหน้างอ หลังจากโดนพร่ำสวดซะหูชาจากอาจารย์มหาภัยนั่นเป็นเวลาชั่วโมงติดต่อแถมยังโดนฟาดก้นไปหลายที่อยู่ -_- ฉันจึงต้องหาที่ระบายซะหน่อยไง จะมีใครซะอีกที่ทนฟังฉันได้เกินสิบนาทีนอกจากยูคิ
“ อากิระวันนี้ไปไหนซะล่ะ ปกติเค้าจะลากเธอไปโรงอาหารนี่ “ ยูคิถาม
“ นายนั่นไม่มาหรอก “ ฉันตอบแบบเซ็งๆ “ เพราะเค้าต้องติวหนังสือให้รุ่นน้อง “
“ มันอาสาเองเหรอ “
“ รู้สึกจะโดนบังคับ “
“ ก็ว่างั้นแหละ อย่างมันอาสาติวหนังสือให้รุ่นน้อง คงเหมือนกับซากุระหันมาชอบฉันล่ะมั้ง “
“ แล้วมันเกี่ยวอะไรกับซากุระล่ะ “
“ -_- นี่เธอไม่เข้าใจคำเปรียบเปรยรึไงนะ “
“ ช่างเถอะ -_- “
“ แล้วนี่จะไปไหน “
“ ฉันเหรอ ^O^ กะจะไปแอบดูอากิระสอนรุ่นน้อง “
“ เธอกินข้าวรึยัง “
“ ยัง “
“ ตอนนั้นได้กินขนมปังนั่นรึเปล่า “
“ เอ่อ -_- พอดีลืมน่ะ “
ยูคิทำหน้าตาไม่พอใจที่สุดเท่าที่ฉันเคยเห็นตั้งแต่ที่รู้จักกันมา เขาคว้าข้อมือฉันแล้วลากดิ่งไปโรงอาหารทันที
+++++++++++
ยูคิลากฉันไปโรงอาหาร ซื้อโน่นซื้อนี่ด้วยเงินที่มากอยู่ก่อนจะยัดเยียดให้ฉันกินให้หมด -_-^^ ขืนฉันกินหมดหุ่นคงบึกบึนประมาณแก๊งชาลาลานั่นแหละ พอฉันปฏิเสธว่ากินไม่หมดแน่ๆ . . .
เขาโกรธฉัน!!
ไม่ยอมพูดด้วยเลย
ผู้ชายนี่ขี้งอนแบบนี้ทุกคนรึเปล่าเนี่ย
เลิกเรียน
“ ยูคิ๊~~~~ “ ฉันเรียกชื่อเขาเป็นรอบที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ มันมากมายเกินกว่าจะจำหมด
ยูคิเดินดิ่งหน้าเชิดออกจากโรงเรียนไปไม่พูดไม่จา ฉันเร่งฝีเท้าเดินตามเขาให้ทัน
“ ฉันขอโทษ TT_TT เอาเป็นว่าจะกินให้หมดละกันนะ “
“ ช่างเถอะ -_- ของดีๆบำรุงสุขภาพทั้งนั้น ถ้าเธอไม่อยากกินจริงๆก็ไม่ต้อง “
“ อะไรกันเล่า >_< “ ฉันพูดอย่างหัวเสีย “ ฉันไม่กินก็โกรธ กินก็โกรธ “
“ เธอ -_- กลับบ้านไปซะ “
“ ก็นายยังไม่หายโกรธฉันเลย “ ฉันพูดพลางทำหน้าเศร้า “ นายหายโกรธก่อนสิ ^_^ เดี๋ยวฉันจะรีบกลับบ้าน “
“ เธอจะไปไหนก็ไปเถอะ -_-^ เธอคิดว่าเธอเป็นใครกันฉันถึงต้องฟังคำพูดของเธอทุกเรื่อง อย่าทำตัวเป็นคนสำคัญของฉันหน่อยเลย ฉันไม่เคยคิดจะแคร์ซักนิดว่าเธอจะเป็นยังไง เธอเป็นอะไรขึ้นมา -_- ฉัน...ก็ไม่เสียใจหรอก!! “
“ ....ฉันก็แค่ อยากจะให้นาย “ ฉันพูดเบาราวเสียงกระซิบ “ ไม่โกรธ. . .ฉัน ”
ยูคิไม่เคยตะโกนใส่ฉันรุนแรงอย่างนี้มาก่อนเลย ดูเขาจะใส่อารมณ์กับเรื่องนี้มากเป็นพิเศษ ใบหน้าของเขาดูเย็นชาน่ากลัว ไม่นึกเลยว่าฉันไม่กินข้าวจะทำให้เขาโกรธขนาดนี้
“ ฉัน . . .ฉัน เอ่อ “ ฉันซึ่งทำตัวไม่ถูกเมื่อยูคิจ้องถ^_^ทึงใส่ฉันขนาดนี้ “ ฉันกลับบ้านดีกว่า ขอโทษนะ “
ฉันรีบวิ่งสุดชีวิต TT_TT ทำไมยูคิจะต้องโกรธฉันด้วยล่ะ เรื่องแค่นี้ถึงขนาดทำให้เขาไม่พอใจขนาดนี้เชียว >_< มันไม่ยุติธรรมเลย มันผิดมากเลยรึไงที่ไม่กินข้าว แล้วฉันก็ไม่ได้ทำตัวเป็นคนสำคัญของนายซะหน่อย ก็แค่....
เป็นเพื่อน
ก็เท่านั้นเอง
“ ยัยงี่เง่า -_-^^ ระวังรถ!!! “
ฉันเพิ่งรู้สึกตัวว่ายืนอยู่กลางถนน รถวิ่งมาด้วยความเร็วสูง O_O พระเจ้าช่วยกล้วยไหม้ >_< ทีนี้ลูกจะวิ่งไปทางไหนดีล่ะ -_- ฉันยังไม่อยากตายตอนสิบเจ็ดหรอกนะ
ฉันถูกกระชากคอเสื้ออย่างแรงจากด้านหลังให้ขึ้นมาบนฟุตบาท รถผ่านฉันไปเพียงแค่นิดเดียว ตามมาด้วยเสียงก่นด่าของคนขับรถคันนั้น ฉันรู้สึกขาไม่มีแรง ก่อนจะทรุดฮวบลงกับพื้นพลางถอนหายใจเฮือกใหญ่
“ นึกว่าจะไม่รอดซะแล้ว “ ฉันพึมพำ
“ ‘ นึกว่าจะ ‘ อย่างนั้นเหรอ ถ้าฉันไม่ช่วย ป่านนี้เธอได้แบนคาล้อรถไปแล้วรู้ไว้ซะด้วย!! “
ฉันหันไปตามเสียงด่าที่แสนจะคุ้นเคย
“ ยูคิ TT_TT “
“ อย่าทำหน้าอย่างนั้น -_-^^ “ ยูคิทำหน้าไร้อารมณ์ “ ที่ฉันตามมาไม่ใช่ว่าเป็นห่วงอะไรหรอกนะ ฉันก็แค่เห็นว่ายัยน้ำลายยืดไอคิวต่ำ จะหาทางกลับบ้านไม่ถูก ฉันก็เลยตามมา พอดีเห็นเธอกำลังจะโดนรถชน แล้วก็ไม่ใช่ว่าเพราะฉันเป็นห่วงอะไรหรอกเลยช่วยไว้ ฉันไม่อยากให้แถวนี้มีผีดุ ฉันก็เลยดึงเธอมา แล้วฉันก็ไม่ได้เป็นห่ว........ “
“ พอๆ ฉันรู้แล้วว่านายไม่ได้เป็นห่วงอะไรฉันเลย “ ฉันพูดพางยิ้ม
“ ยิ้มอะไร “
“ เปล่าหรอก ^O^ ก็แค่ยิ้มที่นายไม่ได้เป็นห่วงอะไรฉันน่ะ “
ยูคิถอนหายใจ ก่อนจะดึงฉันเข้ามากอด O_O เขาพูดขู่เสียงฟ่อข้างๆหูฉัน
“ ทีหลังต้องกินข้าว รู้มั้ย แม่ฉันตายไปคนนึงแล้ว!!! ฉันไม่อยากให้คนที่...ฉันเป็นห่วงต้องเป็นอะไรอีก “
“ เมื่อกี้นายยังบอกว่าไม่เป็นห่วงอยู่เลยนะ “ ว่าแต่แม่ยูคิตายแล้วเหรอ ทำไมไม่เคยเล่าให้ฉันฟังเลย
“ ช่างมัน!! เอาเป็นว่าทำตามที่ฉันบอกรู้รึเปล่า อย่าให้ร่างกายอ่อนแอ ฉันไม่อยากให้เธอไปไหน... “
“ ฉันรู้ ^O^ ปล่อยฉันเหอะ ^O^ นายน่าจะลองดูรอบๆนะ นี่มันฟุตบาทข้างถนนนะยูคิ “
ยูคิเหมือนเพิ่งจะรู้ตัว เขากระชากฉันออกทันที
“ จำไว้ก็แล้วกัน!!! อย่าทำตัวงี่เง่าอีก!!! “
แล้วเขาก็วิ่งจากไปดื้อๆ ทิ้งให้ฉันยืนงงอยู่คนเดียว
ซากุระให้ร้านราเม็งริมฟุตบาทมองตรงมาที่ริคุริ
แก้วน้ำแตกกระจายข้างๆเธอ
“ ขอโทษค่ะ “ เธอพูดเสียงเรียบกับเจ้าของร้านก่อนจะยื่นเงินค่าชดใช้ให้ ดวงตายังคงจับจ้องที่เธอ ในหัวสมองยังคงนิ่งคิดแต่ภาพเดิมที่ฉายซ้ำไปซ้ำมา
พี่ยูคิกอดกับพี่ริคุริ
ซากุระเม้มปากแน่น
จะคิดมากไปทำไมล่ะซากุระ!!! ฉันชอบพี่อากิระนะ อย่าลืมสิ
16
“ อ้ะ -_- สวัสดี “
[b]โครม !!! ปัง !!![/b]
Friday, November 28, 2008
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
No comments:
Post a Comment