Thursday, December 11, 2008

เสือผู้หญิง กะ สิงห์ผู้ชาย

ฉันชื่อวิคกี้ เป็นดาวโรงเรียนแห่งหนึ่ง หุหุ ก็สวยๆอย่างฉันก็ต้องได้เป็นดาวอยู่แล้ว แต่ฉันก็เซ็งแบบสุดๆ สุดยอด เซ็งบรมน่ะสิ โรงเรียนของฉันมันไม่น่าจะมีชมรมจัดอันดับเล๊ย ทำไมน่ะหรอ ก็ฉันถูกจัดอันดับเป็นสาวเจ้าชู้ อันดับหนึ่งเชียวนะ ฉันเกลียดตำแหน่งบ้าๆนี้ เพราะว่ามันทำให้ช่วงนี้ฉันหม้อผู้ชายไม่ได้มากกว่าที่ควรจะเป็น แต่ช่างมันเถอะ ตอนนี้ฉันก็เก็บของใส่ล็อกเกอร์เรียบร้อยแล้ว ฉันก็เลยเดินออกมาพร้อมกับเพื่อนๆอีก 2 คน แล้วฉันก็เดินผ่านสนามบาสก่อนจะ
ฟุบ!!! โอ๊ยลูกบาสโดนข้อพับขาของฉัน ฉันค่อยๆจะล้ม แต่ก็มีคนมารับไว้ ใครเนี่ยมันดวงซวยแต่เช้า ถ้าหน้าตาดีนะแม่จะหม้อซะให้เข็ดเลย ว๊ายยยยยยยหล่อ หล่อจริงๆเลย
“ขอโทษครับวิคกี้” หนุ่มหล่อคนนั้นพูดขึ้น แต่นั่นมันอัส หนุ่มที่ได้รางวัลเพลย์บอยอันดับหนึ่งนี่หว่า หุหุ หม้อสบายๆอยู่แล้วเรา
“ไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณนะคะอัส” ฉันส่งตาหวานพร้อมกับรอยยิ้มให้
“ยินดีช่วยเสมอครับ” ไอ้นี่มันก็หม้อฉันอยู่ ดูก็รู้แล้ว พวกเดียวกัน
“ขอบคุณอีกครั้งนะคะ” ฉันส่งเสียงหวานเลี่ยน พร้อมกับสายตาตอแหลสุดๆไปให้
“เปลี่ยนจากคำขอบคุณเป็นอย่างอื่นได้ไหมครับ” นั่นไง มันหม้อฉันจริงๆด้วย ซื้อหวยล่ะไม่เคยถูก
“อยากได้อะไรล่ะคะ” ฉันพูดแล้วก็ก้มหน้า แกล้งทำเป็นหน้าแดง แล้วไม่อยากให้มันเห็น
“อยากให้อะไรล่ะครับ” ฉันดูก็รู้ทันที เหอๆ แล้วฉันก็หยิบ รูปในกระเป๋าสตางค์ ที่ข้างหลังมีเบอร์โทร อีเมลล์ ที่อยู่ ให้ไป หุหุ ฉันเตรียมพร้อมทุกสถานการณ์อยู่แล้ว ยื่นให้ไป แล้วอัสก็ส่งรูป ที่ข้างหลังมีเหมือนกันเป๊ะมาที่ฉัน เอ๊ะแล้วฉันจะควงหมอนี่สักกี่อาทิตย์ดีล่ะ เอาไว้ก่อนก็แล้วกัน
แล้วพอฉันเข้ามาในห้อง ฉันก็โดนเพื่อนรักด่าอีกแล้ว
“ไอ้กี้แกแมร่งเหมือนเดิมเลยว่ะ” ไอ้แพร เพื่อนฉันพูดขึ้น มันกำลังด่าฉันเรื่องอัสแหงมๆ
“อะไรฟะเออน่า นานๆทีสร้างโบสถ์สร้างวิหาร การกุศล” ฉันบอกมันไปแต่หุหุ คิดได้ไงเนี่ยฉัน บ้าไปแล้ว เหอๆ
“เออเรื่องของแกเหอะไอ้กี้ แล้วเย็นนี้กะจะไปเพ้นท์เล็บจะไปม๊ะ” อะไรนะ เพ้นท์เล็บหรอ ดีเหมือนกันฉันไปเพ้นท์มาก็เบื่อลายนี้แล้วอ่ะ
“เออเอาดิ ต้องไปหาซื้อเสื้อด้วยฉันต้องซื้อสารพัดจะซื้อแหละ” ฉันมันก็เป็นอย่างนี้แหละ ซื้อได้ทุกอย่างอยู่แล้ว
“เอองั้นก็ต้องรีบเก็บของก่อน เพราะว่ายังไงกลับเย็นไม่ได้อยู่แล้ว เดี๋ยวแม่ด่า” เออเรื่องของแม่แกเหอะไอ้แพรว
เมื่อคาบสุดท้ายผ่านพ้นไป ฉันกับนังพวกนี้ก็เลยหาเสื้อผ้า ข้าวของ เครื่องใช้ต่างๆมากมาย แล้วพอซื้อเสื้อผ้าเสร็จฉันก็เลยรีบกลับบ้าน ต่ออินเตอร์เน็ตนั่งเช็คเมลล์เลย
“ทำไมมันเยอะขนาดนี้ฟะ จำได้ว่าเพิ่งเช็คไปเมื่อวานนี่หว่า” ฉันอุทานกับตัวเอง มีจดหมายมาหาฉันตั้ง56 ข้อความ แล้วฉันก็นั่งเช็คไปเรื่อยๆ มีแต่คนเมลล์มาบอกรัก น่าเบื่อจริงๆ รักฉันอยู่ได้ จะรักไปหาอะไรยะ แล้วทันทีที่เช็คเมลล์เสร็จ ก็ดันมีอีเมลล์ ที่ส่งเข้ามาใหม่ ฉันเปิดอ่านดู กรี๊ดดดดดดด อัสส่งมา
‘แรกๆรู้จัก สักพักเป็นเพื่อน ต่อไปใจเตือน มากกว่าเพื่อนได้ไหม’ ข้อความนี้มันเน่านะ แต่ไม่เป็นไรหรอก ถึงน้ำจะเน่า แต่ก็เห็นเงาจันทร์555+
แล้วฉันก็เลยส่งกลับไป
‘ถ้าฉันบอกเธอว่ารัก เธอจะทำให้ฉันอกหักหรือไม่ เธอจะเมินเฉยหรือไม่ใส่ใจ หรือจะรับรักฉันไว้อยากรู้จัง’
พอฉันส่งเสร็จ อัสก็โทรกลับมาทันที
“ฮัลโหลสวัสดีค่ะ วิคกี้ค่ะ” ฉันบีบเสียงหวาน ทั้งที่รู้ว่าเป็นอัส เพราะฉันเมมไว้เรียบร้อยแล้ว แต่แกล้งทำไม่รู้ ดีกว่า
“รู้ไหมครับว่าใคร” อัสถาม แม้แต่เสียงในมือถือก็ยังน่ารักเลย ถ้าอยู่ใกล้ๆนะ จะกระโดดหอมแก้มให้ตายเลยคอยดู
“ไม่ทราบสิคะ ขอโทษนะคะ ถ้าจะโทรมาจีบคงไม่ได้หรอกค่ะ” ฉันก็ตอแห….ไปเรื่อยเปื่อย
“แล้วทำไมถึงจีบไม่ได้หรอครับ” อัสถามเสียงละห้อย ฉันรู้หรอกว่ามันแกล้ง
“ก็เพราะว่ากี้แอบชอบคนๆนึงแล้วซิคะ” ฉันก็กระแดะไปตามเรื่อง
“แล้วใครล่ะครับผมอยากรู้ เพื่อเป็นของขวัญปลอบใจ” คนอย่างแกมีหัวใจด้วยหรอ อุ๊ย ด่าว่าที่แฟนได้ไงเนี่ย
“ แล้วอย่าบอกใครนะคะ คือกี้แอบชอบ อัสม.5ห้อง9อ่ะคะ อย่าบอกใครนะ” ฉันก็แกล้งไร้เดียงสาต่อไป
“ขอบคุณนะครับ” หมอนั่นพูดเสียงเหมือนดีใจ จริงๆแกแค่อ้าปากฉันก็เห็นไส้ติ่งแกแล้ว
“อะ..อะไรหรอคะ” ฉันยังกวนตรีนส์ไม่เลิก แกล้งทำพูดไม่ออก
“ผมอัสครับ” แกไม่ต้องบอกฉันก็รู้ย่ะ
“อะไรนะคะ” ฉันกระแดะทำเสียงตกใจเหมือนเดิม
“ผมอัสครับวิคกี้ ขอบคุณนะครับที่ชอบผม” เออฉันชอบผู้ชายทุกคนแหละ
“เราจะเป็นเพื่อนกันได้ไหมคะ” ตามแผน กรูแหลอีกแล้ว
“แค่เพื่อนหรอครับ” อืม แกก็ยังคงหม้อเหมือนเดิม
“แล้วถ้าจะเป็นแฟนได้หรอคะ” ตรงตามฉบับร่างเป๊ะ
“ได้ครับ แล้วก็อยากให้กี้รู้ไว้ กี้อย่าหึงเวลาที่ผมมีกิ๊ก เพราะว่ากิ๊กเทียบกี้ที่เป็นแฟนไม่ได้หรอก” แล้วเราก็จะเลิกกันเมื่อชาติต้องการ ฉันรู้แล้วย่ะ
“ค่ะ แล้วอัสก็อย่าห่วงเรื่องกี้มีกิ๊กเหมือนกันนะ ชิวล์ๆ” ฉันพูดเสียงให้ดูคิกขุสุดๆ
“ครับผมจะเชื่อใจกี้ กี้ก็ต้องเชื้อใจผมเหมือนกัน รักนะ ฝันดี” กรูรู้ว่าเมิงกลัวเปลืองตังค์ แล้วจะเก็บตังค์โทรไปหากิ๊กต่อ
“ค่ะ ฝันดี อย่าลืมฝันถึงกี้นะ” เอาอีกแล้วไอ้กี้ เอาเข้าไป แล้วพอวางโทรศัพท์ไป ฉันก็ต้องแชทจนนิ้วจะพันกัน สลับรางกกันให้มั่วหมด ทำไมเป็นคนเจ้าชู้มันถึงเป็นยากอย่างนี้เนี่ย แต่ไม่เป็นไร ชีวิตสดใส หัวใจรื่นเริง
“คุณหนูวิคกี้คะ เช้าแล้วนะคะ” เสียงป้านุ่มแม่บ้านวัยหกสิบ เรียกฉัน ฉันตื่นตั้งนานแล้วอาบน้ำเสร็จแล้วด้วย
“ค่ะป้านุ่ม กี้เสร็จแล้วนะคะ” ฉันพูดแล้วก็หิ้วกระเป๋าลงมาข้างล่าง
โรงเรียนวันนี้ดูชุลมุนยุ่งเหยิงเหมือนทุกวันเลย ฉันเข้ามาให้ห้องก็พบกับ แพรวและเจ เพื่อนสนิทของฉันเอง
“ว่าไงวิคกี้ไปถึงไหนแล้ว” แพรวถามฉัน ถามทำไมอ่ะ
“ก็เป็นแฟนกันแล้วอ่ะนะทำไมหรอ” ฉันถามมัน เอาเซ่ฉันจะโดนด่าว่ากะไรอีกก็มิสนแล้ว
“เฮ๊ยจริงดิ แกรู้ป่ะฉันให้ไอ้เจไปสืบมาแล้วผลลัพธ์เป็นไงรู้ไหม” จะรู้ดีมั๊ยฟะ
“ไม่รู้ทำไมหรอเจ” ฉันถามยัยเจ เพื่อนสุดน่ารัก
“ไอ้อัสไม่เคยมีแฟน มีมากที่สุดก็คือกิ๊กง่ะ” ไอ้เจตอบ พระพุทธเจ้าช่วยลูกด้วย จริงดิ
“จริงหรอฟะ เฟคแหงๆ” ใช่พวกมันต้องเฟคแน่เลย
“เฟคบ้านพี่เขยแกดิ ของจริงเฟ้ย” อะไรนะ มันมะเคยมีแฟน แล้วตกลงมันยังไงเนี่ย
“จริงหรอฟะไม่น่าเชื่อ” ฉันพูดเสียงกวนโอ๊ยสุดๆ
“จริงครับ” เสียงนุ่มๆของใครคนหนึ่ง ฮะ โอ้วไม่นะ บุคคลคนนั้นคือ
“อัส”
2
“อัสถามจริงดิ เกิดมานายไม่เคยตกลงกับใครเป็นแฟนเลยหรอ” ฉันลากอัสมาถามสองต่อสอง
“อืมจริง แล้วเธอก็จะเป็นผู้หญิงคนแรกด้วย” เฮ๊ยทำไมเป็นอย่างนั้นล่ะ แต่ตอนนี้อัสดูกวนมากๆมาดหล่อๆและเป็นผู้ชายที่แสนดีหายไปไหนหมดเนี่ย
“จริงหรอ” ฉันทำเสียงหวานสุดๆ
“ไม่ต้องทำเสียงหวาน ฉันไม่ใช่กิ๊กของเธอ แต่เป็นแฟนเธอ เพราะฉะนั้นฉันขอออกคำสั่งให้เธอไปเลิกกับกิ๊กทุกคนซะ” เฮ๊ยทำไมอย่างนั้นอ่ะ
“นี่ฉันไม่เคยจะต้องทำตามใจใครนะ” ฉันเริ่มโมโหแล้ว ถ้าฉันเลิกกับนายอะไรจะเกิดขึ้นเนี่ย
“หรือเธออยากตาย ก็บอกเลิกฉันมา” อะไรฟะ ได้ไง ทำไมฉันถึงซวยซ้ำซวยซ้อนซวยซ่อนเงื่อนอย่างนี้ล่ะ
“นี่มันจะมากไปแล้วนะ ทีกะผู้หญิงคนอื่นล่ะทำดีเชียว” ฉันเริ่มทำหน้างอนๆ
“อย่างอนให้มันมาก แล้วโทรไปบอกเลิกกิ๊กซะ เร็วๆ” อะไรฟะ นี่หรอผู้ชายที่แสนดีที่ผู้หญิงใฝ่ฝันถึง
“แล้วกิ๊กนายล่ะ” มันไม่ยุตติธรรมอ่ะ
“ฉันไม่เลิก แต่เธอต้องเลิก เธอต้องมีฉันคนเดียวจำไว้” เฮ๊ยนี่มันอะไรเนี่ย
“แล้วทำไมฉันต้องเลิกด้วยอ่ะ” ฉันเริ่มขึ้นแล้ว มันน่าโมโหนี่หน่า
“สั่งให้เลิก เดี๋ยวนี้” เสียงของอัสตะคอกมา โถ่เอ๊ยมันเวรกรรมตั้งแต่ที่ฉันเดินไปเฉียดสนามบาสแล้ว
“เออ” ฉันต้องรับปากไม่งั้นมันฆ่าฉันแน่เลย
พลั๊ว!!!!! มันตบหัวฉันเลยอ่ะ ไม่อาวแล้ว T_T
“อย่าพูดเอออีก เร็วๆโทรไปบอกเลิกกะกิ๊กซะ” กรี๊ดดดดดด แล้วฉันก็ โทรไปบอกทุกคนเลย
ไม่เอาแล้วทำไมฉันต้องซวยด้วยเนี่ย วิญกา นางฟ้ามีกรรม(คล้ายๆอหิงสาจิ๊กโก๋มีกรรมนั่นแหละ) พอฉันโทรเสร็จก็เลยรีบเดินเข้าห้องเรียนมาเลยอ่ะนะ
“ไปไหน” อัสจับมือของฉัน
“ไปเรียน” ฉันมีสีหน้าบึ้งตึงเล็กน้อย
“ทำไมต้องเรียนด้วย” อัสเลิกคิ้วถามฉัน
“แล้วนายจะให้ฉันมาโรงเรียนทำข้าวมันไก่หรอถ้าไม่ให้มาเรียน” ฉันรีบย่างกรายออกมาจากบริเวณนั้น
“ใครอนุญาติให้ไป” ตกลงฉันเป็นแฟนหรือเป็นลูกของไอ้หมอนี่กันแน่
“อัส กี้จะไปเรียน” ฉันเริ่มตวาด
“เออ” ทำไมมันง่ายอย่างนี้ล่ะ
พลั๊ว!!!!ฉันตบหัวมันเองแหละ
“อย่าพูดเอออีก” ฉันเริ่มกวนสุดฤทธิ์
“เล่นอย่างนี้หรอ” แล้วอัสก็เอาน้ำมาสาดฉัน แล้วคิดว่าฉันจะยอมหรอ ฉันก็เอาน้ำสาดคืนแล้วก็ขว้างกระป๋องน้ำใส่ด้วย ถ้าคนผ่านมาเห็นคงจะสงสัยอ่ะนะว่าตกลงนี่มันคู่รักหรือคู่ซาดิสม์กันแน่
แล้วผลสุดท้ายฉันก็ต้องมานั่งหอบรับประทานอยู่ที่โต๊ะหน้าห้องเรียน สรุปว่าคาบนี้ฉันก็ต้องโดดจนได้ทำไมแฟนฉันมันเป็นอย่างนี้เนี่ย น่าเบื่อที่สู๊ดดดดดด
ขณะที่ฉันกำลังนั่งเรียนอย่างเมามันส์ (สมควรจะมันส์ดีมั๊ยเนี่ย)
“วิคกี้แฟนแกกำลังหลีเด็กอยู่อ่ะ” ฉันหันออกไปมองข้างนอกเห็นอัสกำลังนั่งเล่นอยู่ โดยมีผู้หญิงกำลังป้อนน้ำให้ ขอให้พิการไปตลอดชีวิตเลยนะยะ แล้วทำไมฉันต้องโมโหด้วยเนี่ย
“เออช่างหัวมันเถอะ” ฉันพูดอย่างตัดรำคาญ แต่ความจริงแล้วหน้าฉันมันร้อนๆยังไงก็ไม่รู้
“ยอมหรอกี้ นั่นแฟนแกนะ” แล้วจะให้ฉันทำยังไงล่ะไอ้เจ
“เออ ปล่อยมันไปเดี๋ยวเย็นนี้มันตายแน่” ฉันไม่รู้ว่าเป็นอะไรเหมือนกัน มันเกิดอาการจี๊ดๆอย่างบอกไม่ถูก
ฉันแกล้งทำเป็นไม่สนใจแล้วก็เดินมาที่มินิมาร์ทหน้าโรงเรียนเพื่อนซื้อขนม การซื้อของมันทำให้ฉันลืมความเครียดไปได้เหมือนกันนะ ฉันก็ไม่รู้ว่าทำไม แต่ว่าฉันก็เลือกที่จะซื้อมากกว่าอ่านหนังสืออยู่ดีแหละ
พลั๊วะ!!!!
ฉันรู้สึกว่ามีอะไรมากระแทกที่หัวของฉัน เมื่อหันกลับไปมันคืออัสนี่เอง มันจะมากไปแล้วนะ
“ซื้ออะไรกี้” อัสถามฉันด้วยเสียงปกติ แต่ว่าฉันรู้สึกโมโหมากๆ
“ซื้อของ” ฉันตอบอย่างหมดอารมณ์
“เป็นอะไรไปเนี่ย” อัสเอาหน้าผากของตัวเองมาชนหน้าผากของฉัน ให้ตายสิหน้าเราห่างกันไม่ถึงห้าเซนต์ด้วยซ้ำ ฉันรีบเอาตัวออกห่างๆอัสไว้ มันน่าโมโหอ่ะ
“เปล่าไม่ได้เป็นอะไร ทะเลาะกับกิ๊ก” ฉันพูดแล้วก็มองอัสด้วยหางตา
“ก็บอกว่าให้เลิกกับกิ๊กแล้วไง” อัสจับข้อมมือของฉัน
“ทำไมต้องเลิกล่ะ ในเมื่อนายเองก็มีแล้วทำไมฉันจะมีไม่ได้” ฉันโมโหอะไรเนี่ย
“ฉันสั่งให้เลิก เพราะว่าแฟนของฉันจะต้องไม่มีใครนอกจากฉัน” เห็นแก่ตัวมากมาย
“ถ้าอย่างนั้นก็เชิญไปหาแฟนใหม่ซะ ทำไมต้องเป็นฉันด้วย” ใช่สิ ทำไมต้องเป็นฉัน ทำไมฉันต้องเป็นคนแรกของนายมิทราบ อัสบีบข้อมมือฉันแรงมากขึ้น แรงมากๆ แล้วอยู่ดีๆก็มีคนมาขัดจังหวะการสนทนาของฉันกับอัส
“น้องวิคกี้ครับ พี่โดมเขาให้มาขอเบอร์ครับ” อัสมองหน้าฉัน
“ยุ่งอะไรกับแฟนผมครับพี่” อัสมองหน้าพี่คนนั้นไป เฮ๊ยอัสอุตส่าห์มีคนมาหม้อฉันถึงที่แล้วนะ
“ก็แฟนแกมันโดนใจข้านี่หว่า แล้วแกบีบข้อมือของน้องกี้อย่างนั้นอ่ะอยากตายหรอ” พี่คนที่ชื่อโดมพูดขึ้น แล้วก็แกะมือของฉันที่ถูกอัสบีบออก บอกตรงๆนะว่าไอ้พี่โดมมันหน้าตาทุเรศมาก อย่างมากก็คบกันสามชั่วโมงอ่ะ ถ้าจะคบกับฉัน
“มันจะมากไปแล้วนะ” ผลัก!!!!! หมัดของอัสใส่ไปเต็มๆหน้าพี่โดม แล้วไหนจะเหยียบซ้ำ พี่โดมลุกขึ้นมาแล้วก็สวนหมัดใส่อัส ตอนนี้อัสคิ้วแตกแล้ว ส่วนพี่โดมก็ปากแตกด้วย นี่มันอะไรกันเนี่ย
แล้วเรื่องก็ยุติลงเมื่ออาจารย์เข้ามา แต่อาจารย์ก็จับไม่ได้ เพราะว่าอัสจับมือฉันแล้วก็รีบวิ่งหนีออกมาก่อน แล้วอัสก็ลากฉันมาที่ข้างตึกวิทย์ ข้างๆนี้มันจะเป็นช่องแคบๆ อัสดึงฉันเข้ามาคุยในช่องนี้แหละ
“วิคกี้ อัสไม่รู้นะว่ากี้เป็นอะไร แต่ทำไมต้องมีคนอื่นด้วยมิทราบ” อัสมองฉันอย่างเอาจริง มันดูดุมากๆ
“แล้วทำไมจะต้องเป็นฉันด้วยล่ะ นายก็รู้นี่หน่าว่าฉันเป็นผู้หญิงประเภทเจ้าชู้ติดอันดับหนึ่งของโรงเรียนเลย แล้วทำไมนายถึงอยากมาเป็นแฟนกับฉัน” ฉันก็จ้องหน้าออกไปอย่างนั้นเหมือนกัน
“ก็เพราะว่าฉันมันเป็นคนเจ้าชู้ไง ฉันก็เลยต้องหาแฟนที่นิสัยเหมือนกัน เพราะว่าเขาจะได้เข้าใจเราได้ง่าย” อัสอธิบายกับฉัน แต่ฉันว่ามันยังไม่ยุติธรรมเท่าไหร่
“แต่นายก็สั่งให้ฉันเลิกกับกิ๊กของฉันหรอ แล้วถ้าฉันสั่งให้นายเลิกนายจะเลิกมั๊ย” อัสส่ายหน้า
“ไม่เลิก” อัสบอกเสียงแข็ง
“แล้วนายจะบังคับฉันให้ได้ต้มยำกุ้งหรอ” ฉันเริ่มเกิดอาการเคืองๆ
“ก็…..” อัสเงียบหายไป
“ก็อะไร” ฉันเค้นออกมา
“ก็ฉันไม่รู้ว่ามันจะเป็นแบบนี้ ฉันไม่รู้ว่าทำไมต้องโมโหด้วย เวลาเธอจีบกับคนอื่น ถ้าฉันรู้ฉันคงจะหาแฟนเป็นคนเรียบร้อยไปแล้ว” อัสส่งสายตาวิงวอน เอ๊ย อ้อนวอนมาที่ฉัน
“ถ้าอย่างนั้นนายก็ไปหาคนที่เรียบร้อยเลยสิ” ฉันเดินออกมาแต่ว่าอัสก็จับข้อมือ ที่เดิมเลย อย่างเจ็บอ่ะ ข้อมือฉันแดงด้วยอ่ะ อัสค่อยๆเป่าข้อมือฉัน
“อย่าไปเลยนะ ถึงอัสจะมีคนอื่น แต่ตัวจริงก็คือกี้คนเดียว” ฉันเป็นอะไรไปเนี่ย ฉันชักไม่อยากไปจริงๆแล้วสิ แต่ถ้าฉันคบกับอัสจริงๆฉันก็ต้องเตรียมใจเผื่อวันที่ต้องเลิกกันด้วย
“ฉันก็จะมีนายเป็นตัวจริง แต่ว่าฉันจะขอมีกิ๊ก” ฉันมองหน้าอัสแบบบึ้งๆเล็กน้อย
“ได้ถ้าจะมีกิ๊กก็ไม่ว่า แต่อย่าให้ฉันเห็นไม่อย่างนั้นตาย” โหดจริงๆ นี่หรอคือเบื้องหลังของผู้ชายทุกคน
“ฉันจะมี แล้วนายก็จะไม่เห็นด้วย” ฉันสะบัดมือแล้วก็เดินออกมา
ฉันนั่งเรียนอยู่สักพักแล้วออดหมดเวลาก็ดังขึ้น ฉันกับเพื่อนๆก็เลยมานั่งเล่นข้างล่าง
“น้องวิคกี้ครับ” มีผู้ชายคนหนึ่ง หล่อ หล่อมาก หล่ออิ๊บอ๋าย แต่หล่อน้อยกว่าอัส
“คะ” ฉันทำหน้าไร้เดียวสาสุดๆ อ้อ ท่าทางพี่คนนี้แกจะอยู่คนละโรงเรียนกับฉันนะ
“พี่ชื่อคิม อยู่โรงเรียนเพรสปีเตอร์ครับ” โหพี่แกอยู่นานาชาติเลยนี่หว่า
“อ๋อค่ะ” ฉันส่งยิ้มหวานไปให้พี่แก
“พี่ขอเป็นกิ๊กกับวิคกี้ได้มั๊ยครับ” พี่แกเอาดอกกุหลาบสีขาวยื่นมาให้ฉัน ส่วนฉันก็ต้องรับสิ
“อืม…ได้ค่ะ” ฉันยิ้มหวานๆอีกรอบ
“ถ้าอย่างนั้นไปเสวนเซ่นส์กันป่ะพี่เลี้ยง” มีคนเลี้ยงด้วย หุหุของฟรี
“อืมค่ะ” ทันทีที่ฉันตอบก็พบสายตาของเพื่อนๆที่ส่ายหน้าอย่างอ่อนใจ
+-+-+-+-ที่ร้านเสวนเซ่นส์+-+-+-+-
ฉันเดินมากับพี่คิมแล้วก็นั่งลงช้าๆ
“ทานอะไรดีครับ” ถ้าสั่งไก่ย่างส้มตำจะโดนอะไรเนี่ย
“ขอเป็นชอคโกแลต มิ้ลค์เชคค่ะ” ฉันพูดง่ายๆ แล้วฉันก็ได้ยินอะไรมาจากข้างหลัง
“น้องแอนครับเลอะหมดแล้ว” เสียงคุ้นๆดังมาจากโต๊ะข้างหลัง พอฉันหันไปก็พบว่าผู้ชายคนนั้นกำลังเอาทิชชู่เช็ดให้ผู้หญิงคนหนึ่ง แต่ฉันมองไม่เห็นผู้ชายคนนั้นหรอก เขาหันหลังให้ฉัน
“วิคกี้ ไอติมมาแล้ว” พี่คิมเรียกฉัน
“ค่ะ” ฉันพูดเบาๆ แล้วก็ตักไอติมกิน
- - - - - ฉันยังต้องรออีกนานไหม ต้องรอเธออีกนานไหม ถึงจะได้เจอกับรัก ที่เธอเคยบอกฉัน เมื่อไรรักเก่าเลือนหาย ฉันยังยืนรอให้เธอได้ลืมดูสักวัน เบื่อกับเริ่มใหม่ รักใหม่ เพื่อเธอกับฉันและรักเรา- - - - - เพลงน้ำเต็มแก้วของ เอ็นโดรฟินดังขึ้น มันเป็นเสียงเรียกเข้าของมือถือฉันเองแหละ
แล้วเบอร์ที่โทรเข้าคือเบอร์ของ ‘อัส’ ฉันรีบเอาโทรศัพท์ออกมาคุยข้างนอก
“วิคกี้ใครโทรมาหรอครับ” พี่คิมถามขณะที่ฉันกำลังพรวดออกมา
“อ๋อ พ่อค่ะ” ฉันฉีกยิ้มแล้ววิ่งออกมา
“ฮัลโหล” ฉันพูดเสียงหวานๆ แล้วมองเข้าไปในร้านไอติมแล้วยิ้มให้พี่คิม แล้วก็อดที่จะมองอีกโต๊ะไม่ได้ เอ๊ะ เหลือแต่น้องผู้หญิงนี่หน่า ช่างมันเถอะ
“กี้อยู่ไหนอ่ะ” อัสถามฉัน แต่โชคดีนะที่ฉันออกมาคุยริมถนนก่อน
“อ๋อ กี้อยู่ริมถนนตอนนี้กินไอติมกับเพื่อนอยู่” ฉันพูดหวานๆ อีกรอบ
“ขอคุยกับเพื่อนหน่อย” แล้วจะคุยยังไงฟะ ทันใดนั้นสมองอันชาญฉลาดของฉันก็คิดออก ตาของฉันพบกับผู้หญิงคนหนึ่ง คงจะอายุเท่ากับฉันแหละ ฉันไม่รู้จักเธอหรอกแต่ฉันก็ดึงเธอมา แล้วก็ยื่นแบงค์พันให้ แล้วก็กระซิบกับเธอ
“บอกคนในโทรศัพท์ว่าเธอเป็นเพื่อนฉัน ฉันชื่อวิคกี้ บอกว่ามากินไอติมด้วยกัน” ฉันยื่นโทรศัพท์ไปให้เธอ ส่วนเธอก็งงเล็กน้อย ก่อนจะรับโทรศัพท์ไป
“ค…ค่ะ” น้ำเสียงเธอดูกระอักเล็กน้อย
“อ๋อค่ะ ฉันชื่อมิ้งค์เป็นเพื่อนวิคกี้” เธอค่อยๆพูด
“มากินไอติมกัน กำลังจะกลับค่ะ ค่ะๆจะรีบกลับ ค่ะ” แล้วมิ้งค์ก็วางโทรศัพท์ แล้วก็คืนมาที่ฉัน
“ขอบใจนะ” ฉันฉีกยิ้ม
“เธอมากับใครหรอ” มิ้งค์ถามฉัน
“มากับกิ๊ก” ฉันเริ่มร่าเริงสุดๆ
“อ๋อ ถึงว่า” มิ้งค์พูดแล้วก็ส่ายหัว
“เธอมาทำไมหรอ” ฉันถามเพื่อความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
“ฉันมาจัดการแฟนฉันอ่ะ พอดีว่าแฟนฉันมันดันมากับกิ๊ก ที่ร้านนี้” มิ้งค์ชี้ให้ฉันดู โหนี่มันร้านฉันเลยนี่หว่า ตะหงิดๆนะ
“แล้วแฟนเธอคือใครหรอ” ฉันสงสัยเอามากๆ
“ชื่อคิม” โอ้อกไอ้กี้จะแตก นี่มันแฟนตัวจริงของพี่คิมหรอ เวรกรรม
“หรอ อืมงะ..งั้นเธอก็จัดการเลย แล้วไหนล่ะกิ๊กแฟนเธอ” ฉันเริ่มสั่นเล็กน้อย
“ไม่รู้สิ สงสัยกิ๊กแฟนฉันไปเข้าห้องน้ำมั๊ง” มิงค์จ๋า กิ๊กของแฟนเธออ่ะ อยู่ข้างหน้าเธอแล้ว
“หรอ อืม” ฉันทำสีหน้าระรื่น แต่แล้ว สวรรค์ก็ช่วยฉัน ยัยน้องที่ชื่อแอนเดินมานั่งที่โต๊ะฉัน ไวไฟจริงๆนะคะน้อง แฟนน้องไปเข้าห้องน้ำแป๊บเดียวแล้วน้องมาหากิ๊กพี่เนี่ย(สรุปว่าฉันรอดแล้ว)
“นั่นไงมันมาแล้ว” ยัยมิ้งค์วิ่งเข้าไปลากพี่คิมออกมาจากร้าน ส่วนน้องแอนแกก็หน้าเสีย แล้วก็กลับไปนั่งที่โต๊ะของตัวเอง แล้วแฟนของน้องแอนก็มา เฮ๊ย ไม่ใช่นั่นมันแฟนฉันนี่หว่า ฉันโมโหแบบสุดๆก็เลยเดินเข้าไปยืนอยู่ข้างหลังของอัส
“น้องแอนรอนานหรือเปล่าครับ” อัสถาม ทำไมแกไม่เป็นสุภาพบุรุษกับฉันมั่งฟะ ส่วนน้องแอนแกก็นั่งมองฉันแบบอึ้งๆ
“พะ…พี่อัสคะ” น้องแอนชี้มาที่ฉันที่กำลังถือเมนูอยู่พร้อมที่จะเอาฟาดลงได้ทุกเมื่อ
“ครับ เฮ๊ยวิค….” อัสหันมามองแล้วไม่ทันจะพูดจบ เมนูอาหารก็ได้สาดใส่เข้าไปบนหัวของอัสเรียบร้อยแล้ว ส่วนน้องแอนก็วิ่งหนีไป
“อยากตายนักหรอ” ฉันดึงหูอัสออกมาข้างนอกร้าน
“ไหนกี้บอกว่ามากับเพื่อนไง” อัสถามฉัน
“อย่าพูดมาก” ฉันตะคอก เออสมควรอย่างสูง ใช่สิถ้าไม่อย่างนั้นมันก็รู้สิว่าฉันมากับกิ๊ก
“วิคกี้ อัสขอโทษ” อัสยกมือไหว้ฉัน
“หุบปาก” ฉันตะคอกอีกแล้ว
“เพื่อนกี้ล่ะ” อัสถามอย่างสงสัย
“ไม่ต้องถาม ฉันจะกลับบ้าน” ฉันวิ่งหนีแล้วเรียกแท็กซี่ น่าโมโหที่สุด เชอะ แต่วันนี้ความจริงใครผิดล่ะเนี่ย ช่างมันเถอะ วันนี้ฉันรีบกลับบ้านแล้วก็นั่งอยู่ในห้อง อัสโทรมาสามสิบกว่าครั้งแต่ฉันก็ยังไม่รับสาย ฉันจะต้องภาวนาให้ยัยคนแต่งเปลี่ยนพระเอกสักที……(วิคกี้อย่าฝัน:คนแต่ง)

No comments: