Sunday, November 9, 2008

^^วิศวะวุดห้าว&เพลย์บอยพราวเสน่ห์^^

นิยายไทย เรื่องถัดมา


"โธ่เอ้ย....อะไรนักหนานะ" ชั้นนั่งบ่นอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ในห้องทำงาน เพื่อนร่วมงานของชั้นมองชั้นอย่างหวาดๆ พลางกระเถิบหนีออกห่าง เพราะพวกเค้ารู้ว่าถ้าชั้นโมโหจะเกิดอะไรขึ้นตามมาทีหลัง.....
ชั้นชื่อแมคเคอรี่ เคอร์สัน เป็นลูกครึ่งเยอรมัน-ไทย ทำงานเป็นวิศวะไฟฟ้าให้กับบริษัทบี-เนก ผู้พัฒนาซอฟแวร์หุ่นยนต์อัจฉริยะของประเทศไทย ชั้นเป็นคนที่แปลกกว่าผู้หญิงคนอื่นๆ ทั่วไป คือชั้นจะเป็นคนห้าวๆ ลุยๆ ปากร้าย ขี้โมโห ดูโหดๆ คงจะเป็นเพราะสีผมที่แดงจัดแบบธรรมชาติด้วยเป็นได้ เลยทำให้ชั้นเป็นแบบนั้น ปกติชั้นไม่ค่อยมีใครมาสุงสิงด้วย จะมีก็แต่เพื่อนคู่ขาที่แชทกันประจำเท่านั้นเอง และทุกๆ วันชั้นจะมาทำงานโดยมอเตอร์ไซด์คู่ชีพ ซึ่งเป็นช็อปเปอร์สีดำเงาวับ วันนี้ก็เช่นกัน ชั้นมาทำงานเช่นเคย แล้วคอมพ์ก็เกิดแฮงค์ขึ้นมา ทำให้ชั้นอารมณ์เสีย ชั้นเงยหน้ามองเพื่อนร่วมงานที่อยู่ในห้องทำงานของชั้น ซึ่งต่างพากันถอยห่างชั้น ชั้นก็ยิ่งไม่สบอารมณ์เข้าไปใหญ่ เลยโดดงานขับมอเตอร์ไซด์คู่ชีพหนีออกมาจิบกาแฟแก้เครียดแถวสยามแสควร์
ชั้นเดินเข้าไปในร้านกาแฟประจำของชั้น ก็คือ เรด แคนยอน ชั้นเลือกที่จะนั่งมุมร้านด้านในสุดเพราะคนน้อยดี พนักงานเสิร์ฟก็แวะเข้ามาตามหน้าที่ เมื่อเค้ามองหน้าชั้นก็รู้ทันทีว่าชั้นต้องสั่งอะไร มันก็แน่นี่ ชั้นน่ะขาประจำสาขานี้เลยน้า.... ระหว่างที่ชั้นนั่งรอก็เห็นชายหนุ่มกหญิงสาวคู่หนึ่งควงคู่กันมาอย่างกะหนุงกะหนิง มานั่งโต๊ะข้างๆ ชั้น ชั้นก็เหลือบมองแบบสมเพช (ตามประสาคนไม่มีความรัก) แล้วชั้นไม่รู้ว่าชายหนุ่มคนนั้นเค้ามองเห็นว่าชั้นไปมองเค้ากะแฟนเค้ายังไง เค้าเลยตัดสินใจอาศัยจังหวะที่แฟนเค้าไปเข้าห้องน้ำ เดินตรงเข้ามาหาชั้นที่โต๊ะ
"เอ่อ ขอโทษนะครับ ไม่ทราบว่าคุณจะมองอะไรผมกะแฟนผมนักหนา" ชายหนุ่มเอ่ยถาม ชั้นมองด้วยหางตาก่อนจะหันไปมองทางอื่นโดยไม่ใส่ใจกับคำถามที่ชายหนุ่มถามมา ชายหนุ่มคนนั้นจึงถือโอกาสหอมแก้มชั้นไปทีนึง ชั้นเลือดขึ้นหน้า ลุกขึ้นยืนพร้อมหาเรื่องทันที "นี่นาย...ทำไรของนายเนี่ย" ชั้นถามพลางใช้หลังมือปาดที่แก้ม "ผมถามดีๆ คุณไม่ตอบก็ช่วยไม่ได้ละนะ" ชายหนุ่มตอบหน้าตาเฉย ชั้นเริ่มฉุนมากขึ้นเมื่อเห็นหน้าทะเล้นๆ ของหมอนั่น ชั้นจึงกระชากคอเสื้อของหมอนั่น
"โห....ใจคอจะใช้กำลังกันเลยเหรอ" หมอนั่นยังมาทำทะเล้นใส่ชั้น ชั้นเหวี่ยงตัวหมอนั่นลงไปกับพื้อนอย่างแรง หมอนั่นเซล้มมึนไปเลย ชั้นจึงเดินหนีออกมาจากร้านนั้นอย่างรวดเร็ว ทำไมวันนี้เจอแต่เรื่องซวยๆ น้า เรื่องดีๆ ไม่เห็นเข้ามามั่งเลย ชั้นบ่นในใจขณะที่กำลังขับมอเตอร์ไซด์กลับบริษัท เมื่อไปถึงเจ้านายของชั้นก็ตั้งหน้าบูดบึ้งในทันที ชั้นเริ่มร้อนๆ หนาวๆ จะโดนเรียกไปด่าไหมน้า... เรื่องที่อู้งานเนี่ย สาธุ...ขออย่าให้โดนเลย
ขณะที่ชั้นกำลังเดินผ่านหัวหน้าซึ่งยืนอยู่หน้าประตูแผนก ชั้นรู้สึกว่าได้ยินเสียงหัวใจเต้นชัดเจน เมื่อผ่านพ้นหัวหน้าไปหนึ่งก้าวก็เริ่มเบาใจ "แมคเคอรี่" หัวหน้าทัก ชั้นสะดุ้งสุดขีดก่อนจะหันไปหาหัวหน้าช้าๆ แต่เป็นจังหวะ "คะ? ^^" ชั้นฝืนรับคำออกไป "เดี๋ยวไปพบผมที่ห้องหน่อยนะ ผมมีธุระจะคุยด้วย" หัวหน้าพูดแล้วเดินหายไปซะดื้อๆ ชั้นแทบจะทรุดลงอยู่ตรงนั้น จะโดนเรียกไปด่าแหงๆ เลย ชั้นจึงเดินไปที่ห้องทำงานของหัวหน้าอย่างสงบเสงี่ยม ซึ่งภายในห้องนั้น มีแต่ผู้ใหญ่ของทางบริษัททั้งนั้น จะรวมหัวกันไล่เราออกหรือเปล่าเนี่ย?
"อ้าว แมค มาพอดีเลยนะ" หัวหน้าทักเมื่อเห็นชั้นเดินเข้ามาเงียบๆ ชั้นเงยหน้ามองทุกคนภายในห้อง มีเฮียฤทธิ์เจ้าของบริษัท มาดามหลิน ผู้ใหญ่ของทางค่าย นั่งอยู่ที่โซฟารับแขกตัวเล็กๆ มุมห้อง "เรียกแมคมามีอะไรหรือเปล่าคะ?" มาดามหลินยิ้มๆ "ก็เรียกมาเพื่อต้อนรับรองผู้บริหารคนใหม่ไง เค้าจะมาทำงานวันนี้" มาดามหลินกล่าวเสียงเรียบ "แล้วทำไมไม่มีใครบอกแมคเลยละคะ?" ชั้นถามด้วยความงุนงง เฮ้อ เรื่องวุ่นจริงเลย วันนี้
แอ๊ด.....เสียงเปิดประตูดังขึ้นจากเบื้องหลังของชั้น พอชั้นหันไปมองเลือดก็แทบจะขึ้นหน้า เจ้าหมอนั่นที่มันมาหอมแก้มชั้นเดินเข้ามา สวมสุทผูกเนคไทอย่างดี เมื่อชั้นกับเค้ามองหน้ากันก็อึ้งไปพักหนึ่ง "รู้กันมาก่อนแล้วเหรอ" เฮียฤทธิ์ถาม "ครับ" หมอนั่นตอบอย่างสุภาพ น่าเกลียดจริงเลย ต่อหน้าผู้ใหญ่ทำเป็นสุภาพ อย่างนี้เค้าเรียกหน้าไหว้หลังหลอกจริงๆ น่าหมั่นไส้ชะมัด "เอาละ แมค นี่คาร์ลอส ลิฟวินส์ รองผู้บริหารคนใหม่ของบริษัท ส่วนนี่ แมคเคอรี่ เคอร์สัน หัวหน้าแผนกวิศวะ" มาดามหลินกล่าว ทั้งสองอึ้งกิมกี่ไปในทันที มาดามหลินยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดู
"คงต้องไปแล้วแหละ ยังไงก็ลองศึกษางานดูก่อนนะ" มาดามหลินกล่าวก่อนจะออกจากห้องไปพร้อมกับเฮียฤทธิ์ ชั้นกับตาคาร์ลอสมองหน้ากันก่อนที่ชั้นจะเดินหนีออกจากห้อง กลับห้องทำงานของชั้นเอง เฮ้อ วันนี้วันซวยจริงๆ เจอแต่เรื่องแย่ๆ แล้วชั้นจะต้องทนทุกข์กะงานแล้วก็ตาบ้าคาร์ลอสอีกนานไหมเนี่ย - -"
2
ชั้นนั่งลงที่เก้าอี้ในห้องทำงานอย่างเหน็ดเหนื่อยก่อนจะเหลือบมองหน้าจอคอมพ์ที่กำลังเปิดอยู่ ก็อกๆ ยัยเจน เพื่อนร่วมงานที่ซี้ปึ้กที่สุดของชั้นเคาะประตูก่อนจะเดินเข้ามาในห้อง "มีไรหรือเปล่าเจน" ชั้นถามเมื่อเห็นสีหน้าของยัยเจนที่ดูลุกลี้ลุกลน "หัวหน้าเรียกเธอไปทำไมเหรอ โดนเรื่องโดดงานหรือเปล่า" ชั้นหัวเราะเสียงดังออกมาทันทีเมื่อได้ยินคำถามของยัยเจน "ยัยบ๊องส์ หัวเราะอะไร" เจนบ่นทันทีเมื่อเห็นชั้นหัวเราะออกมา
"หัวหน้าเรียกชั้นไปต้อนรับรองผู้บริหารคนใหม่เฉยๆ คิดมากน่า" ชั้นพูดไปหัวเราะไปอย่างติดตลก "แล้วจะหัวเราะทำไมเล่า คนเค้าอุตส่าห์เป็นห่วงนะ" ยัยเจนบ่น ชั้นสะอึกไปทีหนึ่งจึงหยุดหัวเราะ "ขอโทษก็ได้" ชั้นกล่าวพลางเปิดโปรแกรมงานในคอมขึ้นมาทำต่อ เสียงยัยเจนเงียบลง ชั้นจึงหันไปมองยัยเจน ปรากฏว่ายัยเจนนั่งเขิน ม้วนอาย มองออกไปนอกหน้าหน้าห้องทำงานของชั้น ซึ่งจะเห็นโต๊ะทำงานของแผนกวิศวะได้ทั้งหมด ชั้นจึงมองตามออกไป
ก็ไม่เห็นอะไรนอกจากตาบ้าคาร์ลอสเดินศึกษางานอยู่ สวมสูทอย่างเท่ ชั้นจึงหันไปหายัยเจนอย่างงุนงง "เป็นไรของเธอเนี่ย ยัยเจน" "ก็ดูดิ ใครก็ไม่รู้ หล่อ เท่ แฮนด์ซัมมากเลยอ่ะ" ยัยเจนพูดแบบคนพร่ำเพ้อ ชั้นมองยัยเจนอย่างเอือมระอาก่อนจะทำงานของชั้นต่อไป ไม่รู้ว่าอะไร หมอนั่นถึงได้ถือวิสาสะเปิดประตูห้องทำงานของชั้นแล้วเดินเข้ามาหน้าตาเฉย "ห้องทำงานเธอเหรอ ตกแต่งดีนี่ เท่ดี" คาร์ลอสพูดพลางมองไปรอบๆ ห้อง ยัยเจนยิ่งเขินเป็นสองเท่า ที่ชั้นรู้เพราะเสียงกัดฟันแก้เขินของยัยเจนดังชัดขึ้นกว่าเดิม
"แล้วนายเข้ามาในห้องทำงานชั้นทำไมกัน" ชั้นถามอย่างไม่สบอารมณ์ คาร์ลอสเดินเข้ามาใกล้ๆ โต๊ะทำงานทันทีเมื่อได้ยินคำถาม ยัยเจนยิ่งเขินหนัก เดินหนีหลบออกจากห้องทำงานไป "ก็ตั้งใจจะมาหาเธอนั่นแหละ คุณแมคจอมโหด" คาร์ลอสกล่าวอย่างทะเล้น ชั้นมองหน้าหมอนั่นอย่างโมโห "จะมาหาทำไมล่ะ มีอะไรก็ว่ามา" คาร์ลอสได้ฟังก็ยักคิ้วทำไม่รู้ไม่ชี้แล้วนั่งลงที่ที่วางแขนของเก้าอี้ทำงานที่ชั้นนั่งอยู่อย่างไม่เกรงใจ
"ก็ผมจะมาศึกษางานกับคุณซะหน่อย จะว่าไรไหม" คาร์ลอสถาม ชั้นเหล่แผ่รังสีอำมหิตออกไปก่อนจะเมินเฉยหันมาทำงานต่อ ตาคาร์ลอสจึงเอาใบหน้าอันขาวผ่องมาซุกไซ้ซอกคอของชั้น ชั้นทั้งตกใจทั้งสะดุ้งสุดขีด พยายามดันตัวตาคาร์ลอสออก แต่ยิ่งผลักออก ตาคาร์ลอสก็ยิ่งซุกไซ้ โอบรัดชั้นแน่นขึ้น ชั้นจึงแน่นิ่งไป เมื่อตาคาร์ลอสเห็นชั้นนิ่งก็ตกใจ ถอยออกห่าง ชั้นจึงลุกขึ้นมาต่อยหน้าและเตะเข้าท้องตาคาร์ลอสติดๆ กัน 5 ครั้ง จนตาคาร์ลอสจุกลงไปนอนหงอกับพื้น
"สมน้ำหน้า เจ้าเล่ห์นักเหรอ" ชั้นพูดอย่างสะใจ เมื่อเห็นตาคาร์ลอสนอนตัวงอเป็นกุ้งถูกเผาอยู่ที่พื้นห้อง "อะไรกัน นี่เธอแกล้งชั้นเหรอ" ตาคาร์ลอสยังโวยต่อ ชั้นยิ่งสะใจเข้าไปใหญ่ สม บังอาจมาทำเพลย์บอยกับชั้น รู้จักชั้นน้อยไปซะแล้วมั้ง ชั้นน่ะ นักกีฬาเทควันโด้ของโรงเรียนสมัยม.ปลายเชียวน้า สะใจจริงเชียว ขณะที่ชั้นยังสะใจไม่หาย นาฬิกาข้อมือของชั้นดังขึ้นเพื่อเป็นสัญญาณเตือนว่าถึงเวลาเลิกงานแล้ว ที่ต้องตั้งให้เตือนไว้เพราะชั้นชอบทำงานเลยเวลาประจำ
ชั้นจึงเดินออกจากห้องไปโดยไม่ใส่ใจกับร่างของตาคาร์ลอสที่นอนหงออยู่กับพื้น "เฮ้ รอเดี๋ยวสิ" เสียงของตาคาร์ลอสตะโกนตามหลังชั้นมา ขณะที่ชั้นกำลังจะสตาร์ทช็อปเปอร์คู่ชีพกลับบ้าน "หายจุกแล้วเหรอ" ชั้นแกล้งแหย่ "เหอะน่า แล้วนี่เธอจะกลับบ้านเลยใช่ไหม" ตาคาร์ลอสถาม ชั้นพยักหน้าหงึกหงักก่อนจะหันไปเสียบกุญแจรถ คาร์ลอสคว้ามือขวาของชั้นขึ้นมา ชั้นสะดุ้งเตะก้านคอคาร์ลอสเข้าทันทีด้วยความตกใจ
คาร์ลอสล้มลงหมดสติตรงนั้น ซึ่งชั้นเองก็ไม่รู้ว่าตัวเองทำบ้าอะไรลงไป เลยต้องเป็นภาระ รบกวนให้ลูกน้องในแผนกผู้เคราะห์ร้ายที่เดินผ่านมาแถวนั้น พาตาคาร์ลอสไปรพ. โดยที่ชั้นกลับบ้านไปอาบน้ำ นอนสบายใจเฉิบ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย วันนี้ช่างเป็นวันที่วุ่นแท้ๆ เลยน้า........
3
รุ่งเช้า ชั้นรีบขับช็อปเปอร์คู่ชีพของชั้นมาทำงานแต่เช้ามืด ซึ่งแต่ไหนแต่ไรชั้นก็เป็นอย่างนี้อยู่แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งวันนี้เป็นวันเสาร์ ไม่ค่อยมีคนมาทำงาน จะทำงายได้สบายใจกว่ากันเยอะ เมื่อชั้นจอดช็อปเปอร์คู่ชีพของชั้นไว้ที่ลานจอดรถหน้าบริษัท ชั้นก็เดินเข้าไปทำงานในห้องทำงานของแผนกวิศวะต่อ เมื่อวานนี้ก็แทบไม่ได้แตะงานเลยด้วยซ้ำ แล้วอีกอย่าง วันนี้ต้องลงพื้นที่ไปดูที่โรงงานผลิตตัวหุ่นยนต์ แผนกพัฒนาซอฟแวร์หุ่นยนต์ คงต้องกลับบ้านดึกหน่อยละมั้ง วันนี้
"แมค" เสียงชายหนุ่มปริศนาดังขึ้น ชั้นสะดุ้งโหยงขณะกำลังทำงาน เมื่อชั้นเงยหน้าขึ้นมองก็พบหัวหน้าของชั้น มีสีหน้าโกรธจัดมากๆ หรือว่ารู้ว่าชั้นโดดงานเมื่อวาน ตายแล้ว ใครก็ได้ช่วยด้วยยยยย... "เมื่อวานเธอไปเตะก้านคอคุณคาร์ลอสเค้าทำไมกัน" หัวหน้าถามเสียงเครียด โล่งไปที ไม่ใช่เรื่องโดดงาน "ก็หมอนั่นมันมาทำให้แมคตกใจเองนี่นา หัวหน้าก็รู้ว่าแมคเป็นอย่างนี้อยู่แล้ว" ชั้นแย้งขึ้น หัวหน้าเริ่มลังเล "ก็จริงของเธอนะ แต่ทำไมน้า นิสัยอย่างนี้แก้ไม่หายซะที ห้าวๆ โหดๅ อย่างนี้ เดี๋ยวก็ได้ขึ้นคานกันพอดี 5555" หัวหน้ากล่าวติดตลกแต่ชั้นไม่ตลก จ้องหัวหน้าตาเขม็ง หัวหน้าสะดุ้งทันทีเมื่อเห็นชั้นจ้อง เลยขอตัวออกไปทำงานต่อ
ชั้นนั่งทำงานไปพักหนึ่งก็เหลือบไปเห็นกล่องพัสดุสีขาวขนาดใหญ่วางอยู่หลังห้อง ชั้นจึงละงานมาดูที่กล่องนี้ คึดว่าน่าจะเป็นหุนยนต์และซอฟแวร์ตัวใหม่ที่ทางบี-เนกของญี่ปุ่นส่งมาให้ จึงลองเปิดดูก็เป็นหุนยนต์ตัวใหม่ล่าสุดอย่างที่ชั้นคิด รูปร่างออกจะคล้ายอาซิโม แต่มีล้ออยู่ใต้เท้า เลยไม่ต้องก้าวเดินให้ยุ่งยาก แต่คราวนี้ไม่มีซอฟแวร์ส่งมาให้ พร้อมจดหมายภาษาอังกฤษอีกฉบับหนึ่ง จับใจความได้ว่า
"ขณะนี้ทางบริษัทบี-เนกของญี่ปุ่นกำลังมีปัญหาภายในเกี่ยวกับซอฟแวร์ จึงขอยกหุ่นยนต์ตัวนี้ไว้ให้ศึกษา เพราะบริษัทคู่แข่งก็พยามยามจะสืบหาข้อมูลตัวนี้เช่นกัน ถ้าทำได้ขอให้บริษัทบี-เนกประเทศไทย ช่วยพัฒนาซอฟแวร์ที่สามารถใช้งานกับหุ่นยนต์ตัวนี้ได้โดยเร็ว เมื่อทางเราเคลียร์ปัญหาเสร็จเรียบร้อย เราจะแจ้งให้ทราบอีกที"
วุ่นวายกันอีกแล้ว แล้วก็ต้องเป็นภาระชั้นที่ต้องนำไปบอกกับผู้บริหาร ชั้นจึงถือกล่องพัสดุที่ทั้งหนักและใหญ่เดินไปที่ห้องผู้บริหาร ขณะที่กำลังจะเปิดประตูเข้าไปนั้นก็ได้ยินเสียงผู้ริหารทะเลาะกัน รวมทั้งตาคาร์ลอสด้วย น้ำเสียงทุกคนต่างเคร่งเครียดจนชั้นหวั่นเกรง เลยต้องถือพัสดุนั้นกลับไปไว้ที่ห้องตามเดิม แล้วจึงก้มหน้าก้มตาทำงานของชั้นต่อไป ผ่านไปพักใหญ่ ตาคาร์ลอสก็ถือวิสาสะเดินเข้ามาในห้องทำงานของชั้นแล้วมานั่งเอกเขนกอยู่โซฟาตัวเล็กภายในห้องทำงานของชั้นด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ที่คอมีเฝือกอ่อนรองคอเอาไว้
"เป็นไงมาไงถึงได้ทำหน้าเครียดอย่างนั้นล่ะ" ชั้นถามขณะที่กำลังจิบกาแฟ "ก็ไม่อะไรมากหรอก พวกผู้บริหารเค้าทะเลาะกันนิดหน่อยน่ะ แล้วชั้นก็ต้องไปเอี่ยวด้วยอยู่แล้ว" คาร์ลอสตอบด้วยสีหน้าเศร้าหมอง "ก็ช่วยไม่ได้นี่นา นายเป็นรองผู้บริหาร ก็ต้องทำใจหน่อยละ ว่าแต่ กาแฟสักแก้วไหม?" ชั้นถามด้วยความเป็นห่วง ไม่รู้ทำไมความรู้สึกนี้มันถึงเกิดขึ้นกะชั้นได้น้า.... "อืม ขอบใจ" คาร์ลอสตอบสั้นๆ ชั้นจึงไม่พูดอะไรมากรีบเดินออกไปที่ห้องครัวของแผนก แล้วชงกาแฟให้ แต่ยังไม่ทันจะยกไป คาร์ลอสก็เดินมาซะก่อน
"ไม่รออยู่ที่ห้องละ" ชั้นถามอย่างสงสัย "ไม่ละ มาตรงนี้แหละดีที่สุด" คาร์ลอสพลางยกกาแฟที่ชั้นถืออยู่ขึ้นมาดื่มรวดเดียวหมด "กลมกล่อมดีนี่ ชงเก่งนะ" ชั้นเริ่มเหล่คาร์ลอสอย่างไม่พอใจกะคำพูดเมื่อครู่ "นายยังเข้าเฝือกอ่อนอยู่นะ อยากจะเข้าเฝือกส่วนอื่นเหรอไง" ชั้นขู่ฟ่อๆ "โหดจริงนะ ชั้นกะลังเครียดๆ อยู่ยังจะมาเตะชั้นอีกเหรอไง" คาร์ลอสบ่น "ก็นายมาทำให้ชั้นตกใจนี่นา แล้วจะให้ชั้นทำไงละ ขอโทษเหรอ" ชั้นบ่นอุบอิบ "ถ้าอย่างนั้น..." คาร์ลอสเอ่ย "อย่างนั้นอะไร" "อย่างนั้นเที่ยงนี้ไปกินข้าวกะชั้นละกัน" คาร์ลอสเสนอ
"ตาบ้า ไม่เอาด้วยหรอก กะเพลย์บอยอย่างนายอ่ะนะ ไม่เอาด้วย" ชั้นปฏิเสธทันที "เถอะน่า ชั้นไม่ทำอะไรเธอหรอก ก็เธอเล่นเตะชั้นซะก้านคอจะหัก" คาร์ลอสบ่นกลับทันที "อ้ะ ก็ได้ๆ แต่.." ชั้นพูดไม่ทันจะจบ ตาคาร์ลอสก็พูดแซงซะก่อน "ไปกันสองคนนะ ห้ามพาคนอื่นไปด้วย" อะไรกัน ชักจะเกินเหตุไปหน่อยละมั้งเนี่ย "ทำไมละ ชั้นพาเพื่อนชั้นไปด้วยไม่ได้เหรอไง" ชั้นบ่นต่อ "ไม่ได้ ไม่งั้นชั้นจะฟ้องผู้บริหารว่าเธอเตะก้านคอชั้น" คาร์ลอสขู่ เข้าใจหาเรื่องขู่ให้ชั้นตกงานจริงๆ เลย "อ้ะก็ได้ๆ" จำใจตกลงนะเนี่ย - -"
คาร์ลอสยักไหล่ก่อนจะเดินกลับไปทำงาน ชั้นจึงกลับไปทำงานของชั้นต่อตามเดิม...........
4
รุ่งเช้า ชั้นสะดุ้งตื่นเพราะเสียงโทรศัพท์มือถือของชั้นดังขึ้น ชั้นลุกจากที่นอนอย่างงัวเงียพลางรับสาย "ฮัลโหล" ชั้นพูดด้วยน้ำเสียงงัวเงีย "ทำไรอยู่อ้ะ" เสียงตาคาร์ลอสดังขึ้น "นอนอ้ะเด้ะ ง่วงจะตาย" ชั้นบ่น "เลิกนอนได้แล้ว เมื่อวานนี้หัวหน้าบ่นกับชั้นว่าเธอไม่ได้ไปดูงานที่โรงงานน่ะ จริงหรือเปล่า" คาร์ลอสถาม ชั้นสะดุ้งหายงัวเงียทันทีเมื่อนึกออก "ตายแล้ว ชั้นลืมสนิทเลยละ" ชั้นอุทาน "ยังไม่ตายหรอกน่า ชั้นไปดูงานแทนเธอให้แล้ว เธอมาที่ทำงานเดี๋ยวนี้เลยนะ มาเคลียร์งานเดี๋ยวนี้" คาร์ลอสเทศน์สั่งเป็นฉากๆ เอ...ถ้าชั้นไป อาจจะต้องเจอมาดามหลินอีก ชั้นโดนฆ่าแหงมๆ "เอ่อ...ไม่ไปได้ไหมอ่ะ" ชั้นต่อรอง "ต้องไป ถ้าเธอไม่ไป ชั้นจะไปรับเธอที่ห้องนะ" คาร์ลอสสั่ง "นายมาหาชั้นถูกเหรอไงเล่า" ชั้นถาม "เออน่า จะให้ไปรับใช่ไหม โอเได้แค่นี้บาย" คาร์ลอสพูดอย่างรวดเร็วจนชั้นฟังไม่ทันแล้วก็งุนงงต่อ
ผ่านไปไม่นานขณะที่ชั้นกำลังนั่งสัปหงกอ่านหนังสือพิมพ์บนโต๊ะทานข้าวหลังจากอาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อย เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น ชั้นจึงเดินออกไปเปิดประตู ใช่นายคาร์ลอสจริงๆ ด้วย "นี่เธอตื่นเหรอยังเนี่ย" คาร์ลอสเมื่อเห็นหน้าอันง่วงงันของชั้น "อืม...ตื่นแล้ว" ชั้นพูดด้วยเสียงงัวเงีย "นี่นะตื่น มานี่ให้ชั้นช่วยไหมละ" คาร์ลอสพูดพลางกอดชั้นแน่นแล้วจูบชั้นอย่างดูดดื่ม ชั้นหายง่วงเลยทันที ก่อนจะเหยียบเท้าตาคาร์ลอสแล้วจับทุ่มลงกับพื้น แล้วใช้เท้ายันหลังตาคาร์ลอสไว้ "ไอ้เจ้าบ้า นายทำอะไรของนายเนี่ย" ชั้นพูดพลางใช้หลังมือป้ายปากตนเอง "ก็ช่วยให้หายง่วงไง" คาร์ลอสตอบ "เจ้าบ้า ชั้นไม่ได้ขอสักนิดนึง นายนี่เป็นผู้ชายที่เผลอไม่ได้เลยจริงๆ เจ้าเพลย์บอยตัวแสบ" ชั้นบ่นเป็นชุดๆ "ไม่งั้นชั้นจะหล่อเหรอไงเล่า" คาร์ลอสชมตัวเองต่อ ด้วยความหมั่นไส้ชั้นจึงกระทืบเท้าลงไปหลังของตาคาร์ลอสทีนึง
"หล่อมากเลยเนอะ" ชั้นพูดประชดก่อนจะกลับเป็นท่ายืนปกติ คาร์ลอสลุกขึ้นพลางลูบหลังตนเองด้วยความเจ็บ "เธอนี่ก็ร้ายพอกันแหละน่า...ว่าแต่ชั้นคนเดียวได้ไง" คาร์ลอสบ่น "นี่จะไปทำงานกันได้หรือยัง ไร้สาระมานานแล้วนะ" ชั้นเริ่มเข้าเรื่อง "อืมๆ ไปสิๆ" คาร์ลอสตอบ ชั้นจึงจำยอมไปทำงานกะตาคาร์ลอส เมื่อไปถึงชั้นสะดุ้งโหยงช็อกแทบตาย มาดามหลินยืนดักรอชั้นที่หน้าประตูบริษัทเลยหรือนี่ ตายแล้วทำไงดีล่ะเนี่ย
"เป็นอะไรหรือเปล่า" คาร์ลอสถามขณะกำลังจะเดินเข้าบริษัท คงจะเห็นชั้นหน้าซีดเหงื่อแตกพลั่กเข้าให้ "ชั้นปกติดีทุกอย่างแหละ ไม่ต้องมายุ่ง" ชั้นตอบอย่างไม่ใส่ใจ เมื่อชั้นกับตาคาร์ลอสเดินมาเจอะกับมาดามหลิน ชั้นรีบเดินผ่านมาดามหลินโดยทำเป็นว่าเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น "แมค ชั้นมีเรื่องจะคุยด้วย" เสียงของมาดามหลินทำให้ชั้นซึ่งเดินผ่านต้นเสียงสะดุ้งโหยงขึ้นได้ "ค่ะ" ชั้นตอบรับออกไป ก่อนจะเดินปลีกตัวต่อ "เดี๋ยวนี้เลย" มาดามหลินพูดเหมือนรู้ทันชั้น
"นี่ๆ มีเรื่องอะไรหรือเปล่า" คาร์ลอสกระซิบถามชั้นเมื่อชั้นมาถึงห้องทำงาน "ไม่ใช่เรื่องของนายน่า นายรอชั้นที่นี่แหละ เดี๋ยวชั้นจะกลับมา" ชั้นสั่ง "ชั้นว่าต้องมีอะไรอยู่เบื้องหลังแน่ๆ สีหน้าเธอดูแปลกๆ ไป ช่างเถอะ ชั้นจะรออยู่ที่นี่ละกัน" ตาคาร์ลอสพูดพลางนั่งลงที่โซฟาตัวเดิมในห้องทำงานของชั้น ชั้นเหลียวมองก่อนจะเดินไปที่ห้องทำงานของมาดามหลิน เมื่อไปถึงหน้าประตู ชั้นยืนทำใจโดยการถอนหายใจอยู่ครู่หนึ่งจึงเปิดประตูเข้าไป
มาดามหลินกำลังนั่งรอชั้นที่โต๊ะทำงานด้วยสีหน้าเรียบๆ ปกติ ชั้นจึงเบาใจนิดนึงเมื่อเข้าไป "นั่งก่อนสิ" มาดามหลินพูดพลางยิ้มทักทายชั้นเหมือนปกติ ชั้นจึงนั่งลงที่เก้าอี้ตรงข้ามโต๊ะทำงานของหล่อน "มีอะไรหรือเปล่าถึงเรียกชั้นมา" ชั้นเจาะจงถามทันที "ก็ไม่มีอะมากหรอก แค่อยากจะถามอะไรหน่อย" มาดามหลินพูด "ถามได้เสมอเลย" ชั้นเสริมให้ "เมื่อคืนเธอยังอยู่ทำงานที่บริษัทใช่ไหม" "ใช่ค่ะ ทำไมเหรอคะ" ชั้นตอบอย่างไม่กลัว ไม่รู้ทำไมชั้นถึงพูดออกไปยังงั้นนะ
"เปล่าหรอก แค่แฟ้มเอกสารชั้นหายน่ะ กะจะหาตัวคนเอาไปอยู่ เห็นแฟ้นเอกสารชั้นบ้างหรือเปล่า" มาดามหลินกล่าว พูดออกมาได้ไงน้า...ว่าเอกสารหายโกหกกันต่อหน้าต่อตาเลย ตู้เก็บแฟ้มเอกสารก็อยู่ข้างหลัง ครบหมดทุกแฟ้ม เอาเถอะ ชั้นทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นดีกว่า "ไม่เห็นเลยค่ะ" ชั้นตอบอย่างจำใจ "เหรอ แย่จังนะ อ้อ...จริงสิ วันนี้จะทำงานจนถึงเย็นเลยใช่ไหม" มาดามหลินรีบเปลี่ยนเรื่อง "เอ่อ...ค่ะ อาจจะค่ำหน่อย" ชั้นตอบอย่างกระอักกระอ่วน
"งั้นเหรอ คือชั้นอยากจะให้เธอไปทำธุระแทนชั้นให้หน่อยน่ะ" มาดามหลินกล่าว "ธุระอะไรเหรอคะ" "ก็ชั้นนัดกับลูกค้าไว้น่ะแล้วเผอิญชั้นก็ต้องไปตรวจร่างกายที่นัดกับหมอไว้น่ะช่วยทีนะ" มาดามหลินกล่าวยาวเหยียด ชั้นยังไม่ทันจะตกลงอะไรด้วยเลย เออออไปเอง นี่มันแกมบังคับกันเลยนี่นา "ว่าแต่ไปทำธุระที่ไหนเหรอคะ" ชั้นถาม "โรงแรมแกรนด์ พลาซ่า 2 ทุ่มตรงนะ" "เอ่อ...อ่า...ได้ค่ะๆ" ชั้นตอบอย่างไม่เต็มใจก่อนจะกลับมาหาตาคาร์ลอสที่ห้องทำงาน
"มาแล้วเหรอ ชั้นกำลังจะงีบรอบที่สองแล้ว" ตาคาร์ลอสบ่น "เว่อร์ๆ ตาบ้า ไม่นานขนาดนั้นหรอก" ชั้นบ่นกลับ "อ้ะนี่ ข้อมูลงานที่ชั้นไปดูงานให้ คงจะอ่านยากหน่อยนะเพราะชั้นเขียนเองน่ะ" คาร์ลอสพูดพลางส่งซองเอกสารสีน้ำตาลให้ ชั้นรับแล้วเปิดดู ลายมืออันบรรจงและเป็นระเบียบ ทำเอาชั้นอายจนจะมุดโต๊ะหนีได้เลย ดีกว่าชั้นเป็นหลายร้อยเท่าได้ "เอ่อ...ขอบใจนะที่ช่วยดูงานให้ ความจริงนายไม่ต้องทำเองก็ได้นี่ เลขาฯ นายก็มีอยู่แล้ว ทำเองทำไมให้ยุ่งยาก" ชั้นบ่น ทั้งๆ ที่อยากจะขอบใจเขามากกว่า ทำไมปากชั้นพล่อยงี้นะ
"ก็เลขาฯ ชั้นทำเอาชั้นห้ามใจตัวเองไม่อยู่ทุกที เลขาฯ สวยๆ อย่างนั้นน่ะ ใครเห็นแล้วจะอดใจไหวละ" ตาคาร์ลอสพูด ชั้นส่ายหัวรับไม่ได้ทันที "วันๆ ได้แต่ลวนลามเลขาฯ ละสิงานการถึงไม่ค่อยก้าวหน้าน่ะ เป็นเพลย์บอยก็งี้ละนะ" ชั้นบ่น "เอาเหอะๆ รีบๆ เคลียร์งานดีกว่า อีกสองวันถึงจะได้ไปพักร้อน พรุ่งนี้จะได้นอนให้สบาย" คาร์ลอสพูดพลางเอนตัวลงบนโซฟา "ตอนนี้มาเร่งทำงานก่อนสิ ชั้นก็มีธุระไปทำเหมือนกัน" ชั้นพูด คาร์ลอสถึงจะยอมลุกขึ้นจากโซฟาแล้วมานั่งทำงาน

No comments: