Wednesday, November 12, 2008

ไอรัก...กลิ่นกาแฟ...และลมหนาว...

นิยาย เรื่องต่อมาครับ
ไอรัก...กลิ่นกาแฟ...และลมหนาว...
...เกริ่นนำ....
...ใครที่เคยทานกาแฟ คงรู้ว่ามันทั้ง หวาน ทั้งหอม หากบางครั้งมันก็ขมซะจนแทบทานไม่ได้ ...ความที่ไม่มีอะไรตายตัว นี่แหละคือเสน่ห์ของกาแฟ... เช่นเดียวกับความรัก ที่แปรเปลี่ยนได้รวดเร็ว บางครา...รักอาจเบ่งบานกับอีกบางครา...รักอาจทิ้งไว้เพียงรอยเศร้าในดวงตา....หากคนเราก็ยังโหยหาความรักความอบอุ่นเพื่อมาเติมเต็มช่องว่างภายในหัวใจให้เต็ม....
"พี่ซันขา พรุ่งนี้เพื่อนน้ำจะมาพักที่ไร่ของเรา พี่ซันช่วยต้อนรับเค้าหน่อยนะคะ ตอนนี้น้ำกำลังยุ่งมากเลยค่ะ ไม่มีเวลาไปหาพี่ซันเลย ขอส่งเพื่อนไปเยี่ยมแล้วกันนะคะ ไอ้จอมมันกำลังเซ็งชีวิตที่นี่น่ะค่ะ มันกะจะไปอยู่สักอาทิตย์-สองอาทิตย์ ช่วยดูแลมันด้วยนะคะ" เสียงใสๆของแม่น้องสาวตัวดีดังมาตามสาย หากเขาก็ยุ่งเกินกว่าจะสนใจ จับได้เพียงรางๆว่าเพื่อนยัยน้ำจะมาพักที่ไร่...เหมือนจะชื่อ "ไอ้จอม" แถมเจ้าน้องตัวดียังฝากฝังเขาดูแลซะด้วยทั้งๆที่งานเขาก็ล้นมือจะแย่ อาทิตย์นึกใบหน้าคนที่ชื่อ "ไอ้จอม" ได้รางๆ ภาพชายหนุ่มตัวสูงไว้ผมยาว ไว้หนวดไว้เคราปรากฏแจ่มกระจ่างชัดในมโนภาพ ...ก็น้องเขามันเรียนสถาปัตย์...เพื่อนผู้ชายที่มันเคยพามาที่ไร่ก็ออกแนวนี้ทั้งนั้น "ไอ้จอม" คนนี้คงไม่พ้นแบบนั้นเท่าไหร่นักหรอก...เป็นผู้ชายแท้ๆ ทำไมต้องฝากให้เขาดูแลด้วยวะ!...ยามนี้ "ไอ้จอม" อาจจะจามติดกันหลายครั้งโดยไม่รู้สาเหตุก็เป็นได้
1
เสียงจ้อกแจ้กจอแจของผู้คนจำนวนมากที่มารอรถไฟฟ้าใต้ดิน แทบทำให้หญิงสาวในชุดเสื้อแจ็กเก็ต กางเกงยีนส์ และรองเท้าผ้าใบที่เก่าแสนเก่าจนเกือบจะขาดมิขาดแหล่ปวดศีรษะขึ้นมาอย่างกะทันหัน ใบหน้าเล็กเรียวที่สวมแว่นกันแดดบังไว้เกือบครึ่งเหลียวมองรอบตัวอย่างรำคาญ ริมฝีปากอิ่มสีกุหลาบเม้มน้อยๆ ผมซอยระต้นคอสีน้ำตาลเข้มปลิวสะบัดยามเจ้าตัวหันมองโน่นมองนี่ รางเล็กสะดุดกึกเข้าที่แผ่นหลังของใครบางคนแล้วเดินก้าวฉับๆปรี่เข้าไปหาในทันทีมือเรียงเล็กตบบ่าคนตัวสูงอย่างไม่ยั้งสักนิดราวกับแน่ใจว่า นั่นคือคนที่เธอกำลังมองหา หากแต่เมื่อคนคนนั้นเหลียวมามอง หญิงสาวก็อ้าปากค้างอย่างตกใจ ใบหน้าค่อนข้างขาวหันมาจ้องหน้าคนตัวเล็ก คิ้วเข้มขมวดน้อยๆขณะที่ริมฝีปากหยักหนาเม้มนิดๆ แววตาคมมองหน้าใสๆของคนทักผิดอย่างประหลาดใจ"มีอะไรรึเปล่าครับ" เสียงห้าวๆทำให้คนทักผิดหายตกใจ รีบก้มศีรษะขอโทษขอโพยเป็นการใหญ่ รอยยิ้มจืดๆงให้คนตัวโตอย่างสำนึกผิด ก่อนจะจ้ำอ้าวหนีออกจากที่นั่นโดยเร็ว พลางบ่นพึมไม่ขาดปาก"วันน้มันันซวยอะไรวะเนี่ย" มือเล็กล้วงเข้าไปในกระเป๋าสะพายใบใหญ่เพื่อหาอะไรบางอย่าง พร้อมกับก้มหน้าหลบสายตาผู้คน ค้นหาอยู่นานหากก็ไม่พบ"เอ..หายไปไหนนะ" หญิงสาวยังคงก้มหน้าค้นหาต่อไปอย่างไม่ละความพยายาม หากหาเท่าไหร่ก็ยังไม่พบอยู่นั่นเอง "ตายละ! สงสัยจะลืมไว้ที่บ้าน แล้วนี่จะโทติดต่อมันได้ยังไงวะเนี่ย!" คิ้วบางขมวดมุ่นอย่างใช้ความคิด ระหว่างที่หันรีหันขวางอยู่นั้น เสียงห้าวๆของใครบางคนก็แทบทำให้เธอพ่นปากอย่างโล่งอก"ไอ้จอม! อยู่นี่เอง ตามหาตั้งนาน" ชายหนุ่มผิวขาว รูปร่างสูงยืนหอบแฮกๆด้วยความเหนื่อย"ฉันบอกแล้วว่าให้รอตรงที่นัดไว้ แล้วนี่ไปอยู่ที่ไหนมาวะ ฉันหาแกตั้งนานก็ไม่เจอซะที" เสียงใสๆตวาดแว้ดอย่างเอาเรื่อง จนคนที่เพิ่งมาถึงทำหน้าจ๋อยๆ อย่างรู้ดีว่าคนตรงหน้ากำลังโมโห แถมสายตาจะกินเลือดกินเนื้อแบบนี้ แสดงว่า...โกรธจัด!..."พอดี...เจอเพื่อนเก่า ตรงนู้นน่ะ" ต้นรักบุ้ยปากไปยังอีกฟาก "เลยคุยนานไปหน่อย อย่าโกรธเลยน่า" เขายกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดู อุทานออกมาอย่างตกใจ"เฮ้ย! สายแล้วนะเนี่ย ไอ้จอม รีบไปเถอะว่ะ เดี๋ยวโดนด่าหูฉีกอีก ขี้เกียจฟัง!" ว่าแล้วเจ้าตัวก็ลากเพื่อนสนิทให้เดินตามหากคนตัวเล็กกลับสะบัดแขนออก"เดินเองได้โว้ย ไม่ต้องจูง" ตวาดคนตรงหน้าแล้วหญิงสาวก็ออกเดินนำหน้า "ก็แล้วใครกันล่ะที่ทำให้สายแบบนี้น่ะ" เสียงใสๆไม่วายบ่น "เออ!...ความผิดฉันเองล่ะน่า อย่าบ่นให้มันมากนักเลย ไอ้จอม! เดี๋ยวจะหาผู้ชายมาแต่งงานด้วยไม่ได้นะโว้ย" เสียงหยอกเย้าของคนเป็นเพื่อนไม่ได้ทำให้จอมใจรู้สึกขบขันแต่อย่างใด"ฉันก็ไม่ได้อยากจะแต่งงงแต่งงานอะไรนี่หว่า""เออๆ ไม่อยากแต่งๆ เดี๋ยวก็ได้เป็นเหมือนกับน้าพิม แม่ของแกหรอกวะ!" น้าพิมที่ต้นรักเอ่ยถึงคือพิมมาดา...แม่ของจอมใจนั่นเอง น้าพิมเคยป่าวประกาศเอาไว้เป็นมั่นเป็นเหมาะว่าจะไมมีวันแต่งงาน หากดูเหมือนโชคชะตาจะเล่นตลก..เมื่อท่านได้พบกับพระเอกหนุ่มรูปหล่อ ชื่อยศวิน...พ่อของจอมใจ จนต้องตกกระไดพลอยโจนแต่งงานกันอย่างม่เต็มใจ หากนั่นกลับทำให้ความรักของน้าพิมเบ่งบานอยู่ในใจ จนได้พยานแหงรักของทั้งน้าพิมและลุงวินก็คือ ไอ้จอมคนนี้นั่นเอง!"พ่อกับแม่ฉันเค้าเป็นเนื้อคูกัน มันจะไปแปลกอะไร แต่ฉันนี่ซิ! มั่นใจได้เลยไอ้ต้น เนื้อคู่ฉันยังไม่เกิด ชัวร์!" เสียงใสๆยืนยันอย่างมั่นใจก็ตั้งแต่เกิดมาจนอายุ 24 ปีบริบูรณ์ ยังไม่เคยมีใครกล้าจีบเธอเลยซักคนเดียว นั่นก็หมายความว่าเนื้อคู่เธอยังม่เกิดน่ะซิ!"ทำเป็นพูดไป ไม่แน่อีกสองสามวันฟ้าอาจส่งเนื้อคู่แกลงมาจุติบนโลกมนุษย์ก็ได้นะโว้ย ไอ้เพื่อนรัก!""ไม่มีทาง! ฉันไม่เห็นอยากจะมีเนื้อคงเนื้อคู่อะไรเลย มีแล้วก็วุ่นวายเปล่าๆ ผู้ชายน่ะ...ขี้เหล้า เจ้าชู้ ขี้เก๊ก ดีแต่สั่ง โอ๊ยอะไรๆก็ไม่ดีทั้งนั้น แล้วอย่างนี้จะมีเนิ้อคู่ไปทำไมวะ อยู่คนเดียวดีกว่า! ""เออ! ฉันจะคอยดู ว่าอยู่คนเดียวของแกน่ะ มันจะจริงสักแค่ไหนกันเชียว!" ต้นรักเอ่ยอย่างสบประมาท หากจอมใจกลับหันมายิ้มให้ต้นรักอย่างมั่นใจในความคิดของตนเอง"ของอย่างนี้มันก็ต้องคอยดูกันต่อไปโว้ย!" แต่ใครจะคิดว่าชิวิตของไอ้จอมต่อจากนี้ไปมันจะวุ่นวายน่าปวดหัวจนคาดไม่ถึง!"เอ้า จัดเตรียมสถานที่ให้พร้อม วันนี้ฉากสุดท้ายแล้ว เร่งมือกันหน่อยจะได้ฉลองปิดกล้องกันซะที"เสียงตะโกนสั่งงานจากหนุ่มใหญ่รูปร่างตุ้ยนุ้ยทำให้ทุกคนในกองถ่าย "เรือนรัก" ต่างกระวีกระวาดจัดนู่นจัดนี่อย่างวุ่นวาย หากมีอยู่คนหนึ่งที่เอาแต่ยืนหันรีหันขวาง ชะแง้แลมองใครบางคน เมื่อยังไม่เห็นก็สาวเท้าปรี่เข้ามาหาผู้กำกับหนุ่มในทันที"พี่พีฮะ นางเอกของเรื่องยังไม่มาเลยฮะ นี่มันก็ใกล้เวลาถ่ายแล้วด้วย หน้าก็ยังไม่ได้แต่ง ผมก็ยังไม่ได้เซ็ต แล้วอย่างนี้จะถ่ายทันเหรอฮะ!" ชายหนุ่มแต่ใจหญิงในชุดเสื้อเข้ารูปสีแดงแป๊ดและกางเกงสีเหลืองพูดรัวเร็วเป็นชุด จนพีรยุทธผู้กำกับถึงกับยกมือขึ้นอุดหู"ไอ้สมชาย!" น้ำเสียงที่ตะคอกกลับไปก็ดังไม่แพ้กัน "แกจะมาตะโกนโวยวายหาสวรรย์วิมานอะไรวะ หนวกหูชิบ!" "ไอ้สมชาย" ดิ้นเร่าๆ ส่งเสียงกรี๊ดๆอย่างสุดจะทน"ต๊าย! ตายๆๆ อกอีแป้นจะแตก" "สมชาย" ยกมือทาบอกอย่างมีจริต "พี่พี! พริ้งบอกแล้วใช่มั้ยว่าอย่าเรียกพริ้งว่าสมชายอีก พริ้งน่ะเปลี่ยนชื่อเป็นพริ้งเพราแล้วนะฮะ! พริ้งเพราน่ะพริ้งเพรา!" เจ้าตัวยื่นหน้ามาให้พีรยุทธพลางออกเสียงเน้นทุกคำ ผู้กำกับหนุ่มใหญ่นึกหมั่นไส้ อยากถีบไอ้ตัวตีให้กระเด็นไปไกลๆ"ไอ้สมชาย! ฉันจะเรียกแกว่าสมชายหรือพริ้งเพรามันจะต่างกันตรงไหนล่ะ หา! หรืออยากให้ฉันเลิกจ้างแก หา! ทำไม้ ทำไมถึงชอบมาวุ่นวายตอนที่ฉันกำลังยุ่งอยู่วะ" เสียงตะโกนที่ดังขึ้นเรื่อยๆ บอกชัดว่าชายหนุ่มกำลังโกรธจัด "รีบกลับไปทำงานเลยไป ถ้าไอ้จอมมันยังไม่มาก็โทรตามซะวะ!""ก็...ก็หนูโทรแล้ว แต่มันไม่รับนี่ฮะ" พริ้งเพราตอบเสียงอ้อมแอ้ม ก้มหน้าก้มตามองพื้นบีบมือตัวเองไปมา"ก็โทรหาไอ้ต้นซิวะ! คงจะมาด้วยกันนั่นแหละ ไปเลย ไป รีบไปไกลๆตีนฉันเลย!" พีรยุทธโบกมือไล่จนอีกฝ่ายรีบถอยกลับแทบไม่ทัน มือก็ควานหาโทรศัพท์มือถือในกระเป๋าถือ ปากก็บ่นพึม"ตายๆ ไม่น่าเล้ย เกือบจะโดนไล่ออกแล้วไหมล่ะ เพราะยัยนางเอกนั่นแท้ๆเชียว ทำให้ฉันต้องมาโดนด่าแบบนี้" มือเรียวที่ไว้เล็บยาวรีบกดหาเบอร์โทรศัพท์ของต้นรักอย่างรวดเร็ว ทันทีที่ปลายสายรับ พริ้งเพราก็กรอกเสียงเสียงลงไป"ไอ้จอมมันอยู่กับต้นรึเปล่า" เมื่อได้รับคำตอบว่าคนที่ต้องการตัวอยู่ข้างๆต้นรัก พริ้งเพราอุทานเสียงแหลม"ต๊าย! อยู่ด้วยกันจริงๆซะด้วย ไป^_^จี๋กันสองคนที่ไหนกันล่ะจ๊ะ รู้มั้ยว่าคนที่กองเค้ารอกันนานแล้ว อย่ามาแต่พล่ำพรอดรักซะจนลืมงานล่ะ" ชายใจหญิงจีบปากจีบคอพูดอย่างมันในอารมณ์ที่ได้กระแนะกระแหนแม่นางเอกจอมกวนที่เป็นไม้เบื่อไม้เมากันมานาน"ต๊าย! ไอ้ทุเรศ! นี่แกกล้าด่าฉันเรอะ!" พริ้งเพรากระทืบเท้าปึงปังอย่างขัดใจเมื่อคนทางปลายสายตอกกลับมาอย่างเจ็บแสบ อ้าปากหมายจะรัวด่าเป็นชุดให้สมใจ ต้นรักก็กดตัดสัญญาณเสียก่อน ทิ้งให้คนโมโหฮึดฮัดๆเกือบจะเขวี้ยงโทรศัพท์ทิ้งอยู่รอมร่อ แต่นึกเสียดายจึงทำได้แค่หันไปตวาดคนที่จัดเตรียมงานใกล้ๆ"นี่ยัยติ๊ดตี่ จะจับอะไรก็เบาๆหน่อยซิยะ ข้าวของพังหมด!" ว่าแล้วพริ้งเพราก็ยืนกอดอกทำหน้าบอกบุญไม่รับรอเวลาที่คู่ปรับทั้งสองจะก้าวเข้ามาในกองถ่าย ...ฝากไว้ก่อนเถอะไอ้ต้น ไอ้จอม คิดจะเป็นปรปักษ์กับอีพริ้งงั้นเรอะ! หึ! แล้วเราจะได้เห็นดีกัน! ...แววตาคนพูดวาววับราวกับกำลังคิดหาทางจัดการกับทั้งสองคนให้สาสม
2
ร่างสองร่างที่วิ่งกระหืดกระหอบเข้ามายังกองถ่ายนั้นทำให้คนที่เฝ้ารอผุดลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ผุดขึ้นที่มุมปาก ...วันนี้พวกแกเสร็จฉันแน่! ไอ้ต้น! ไอ้จอม!... ชายหนุ่มแต่ใจหญิง นามว่า "พริ้งเพรา" หรือชื่อเดิม "สมชาย" เดินนวยนาดเข้าไปหาศัตรูคู่แค้นที่กำลังขอโทษขอโพยผู้กำกับหนุ่มใหญ่อยู่อีกทางหนึ่ง"มากันแล้วหรือจ๊ะ มามา มาแต่งหน้าทำผมกันก่อนเร็ว" พริ้งเพราทักทั้งสองเสียงอ่อนเสียงหวานจนทั้งจอมใจและต้นรักนึกระแวง"เฮ้ย...ไอ้ต้น ไอ้สมชายมันจะมาไม้ไหนวะ!"เป็นธรรมดาที่จอมใจจะเรียกพริ้งเพราว่าสมชาย เพราะทุกคนในกองถ่ายต่างรู้ดีว่าคุณพริ้งเพรานั้นเพิ่งไปเปลี่ยนชื่อมา ดังนั้นทุกครั้งจอมใจก็จะเรียกพริ้งเพราว่าสมชายเสมอจนเจ้าของชื่อถึงกับเต้นเร่าร้องแรกแหกกระเชอด่าว่าหญิงสาวเป็นชุด หากนั่นทำให้เธออดหัวเราะอย่างสะใจไม่ได้"ไม่รู้เหมือนกันว่ะ แกน่ะระวังตัวไว้ให้ดีเถอะ" พริ้งเพราหันมายิ้มหวานหยดเยิ้มให้ทั้งสองคน ทว่าจอมใจกลับขนลุกเกรียว...ราวกับเห็นรอยยิ้มนั้นเป็นรอยยิ้มของปีศาจก็ไม่ปานพริ้งเพราพาจอมใจมาเปลี่ยนชุดที่จะใช้ในการแสดงพลางจัดแจงให้หญิงสาวนั่งให้เรียบร้อย ก่อนลงมือแต่งหน้า"นั่งนิ่งๆนะคะ หนูจอม"นี่ก็อีก...คำว่า "หนูจอม" ไอ้สมชายมันเคยเรียกซะที่ไหน! ดวงตากลมโตหรี่มองคนที่ก้มหน้าก้มตาหาอุปกรณ์แต่งหน้าอยู่ข้างๆอย่างประเมิน "ต๊าย! ตายแล้ว หนูจอมมาเหนื่อยๆ คงหิวน้ำแย่ พริ้งว่าพริ้งไปเอาน้ำส้มมาให้ดื่มดีกว่านะคะ" ว่าแล้วเจ้าตัวก็วิ่งปรู๊ดไปหาน้ำส้มมาให้นางเอกของเรื่องที่กำลังนั่งหน้านิ่วคิ้วขมวดอย่างงงในพฤติกรรมของคู่ปรับตลอดกาลอย่ างพริ้งเพราไม่นานนักร่างสูงก็เดินถือแก้วน้ำส้มเดินส่งรอยยิ้มหวานมาให้ จอมใจแอบกลืนน้ำลายเอื้อก เหล่มองไปทางต้นรักที่ทำสัญญาณบอกให้ระวังตัวแล้วเบะปาก คนอย่างไอ้จอมจะให้ใครมาทำอะไรง่ายๆได้ยังไงเล่า เสียชื่อจอมใจหมด!...เมื่อพริ้งเพราตรงดิ่งเข้ามาหาจอมใจ หากเมื่อเข้ามาใกล้แล้วเจ้าตัวกลับทำท่าเหมือนสะดุดอะไรสักอย่าง เป็นผลให้แก้วน้ำหลุดจากมือพุ่งไปยังจอมใจ ด้วยความที่ระวังตัวอยู่แล้ว หญิงสาวรีบกระโดดหลบพลางถีบก้นคนหาเรื่องไปเสียหนึ่งทีอย่างสะใจ คนที่ถูกถีบนั้นหน้าคะมำลงไปจูบกับพื้นอย่างแรงจนคนในกองถ่ายดาหน้าเข้ามามองอย่างตกใจ"เกิดอะไรขึ้น" พีรยทธผู้กำกับหนุ่มใหญ่เป็นคนแรกที่วิ่งเข้ามาถาม เมื่อเห็นสภาพคนที่นอนน้ำตาไหลอยู่บนพื้นก็เข้าไปถาม"ไอ้สมชาย นึกยังไงถึงเอาหน้าไปจูบกับพื้นวะ!""ใครเค้าจะอยากเอาหน้าไปจูบกับพื้นล่ะฮะ ก็...ก็นางเอกตัวดีของพี่พีนั่นแหละฮ่ะที่ทำให้หนูเป็นแบบนี้ เค้าจงใจแกล้งหนูฮ่ะ พี่พีต้องจดการ...."พูดยังไม่ทันจบดี เสียงใสๆของคนที่ถูกกล่าวหาก็ดังขึ้น"อย่ามาปรักปรำกันซิคะ ไม่มีหลักฐานว่าฉันทำอะไรคุณนี่!" จอมใจหันมาพูดกับพีรยุทธ "ผู้กำกับคะ อย่าไปเชื่อไอ้สมชายเลย มันหกล้มเอง แล้วมันก็มาใส่ความจอม อยากให้จอมเดือดร้อน""เอาเถอะ ไหนๆเรื่องมันก็เกิดแล้ว ปล่อยมันไปเถอะ" พีรยุทธรีบตัดบทก่อนที่ทุกอย่างจะเลวร้ายไปกว่านี้ "เอ้า ใครก็ได้พาสมชายไปทำแผลหน่อย" เมื่อสั่งให้ลูกน้องพาคนเจ็บไปทำแผลแล้ว จึงหันมาสั่งช่างแต่งหน้าอีกคนให้มาจัดการกับนางเอกของเรื่อง ปากก็บ่นพึม"วันนี้มันเกิดเรื่องอะไรนักหนาวะ! ขอให้มันถ่ายเสร็จๆแล้วค่อยมีเรื่องก็จะไม่ว่าเลย นี่อะไรมีเรื่องวุ่นวายตั้งแต่เช้า!" หนุ่มใหญ่สั่นศีรษะอย่างระอา ขณะที่จอมใจลอบยิ้มอย่างสะใจ ...บอกแล้ว คนอย่างไอ้จอม ไม่ยอมให้ใครมาแกล้งได้ง่ายๆหรอกน่า.....กว่าจะถ่ายฉากสุดท้ายเสร็จก็ปาเข้าไปเกือบหกโมงเย็น จอมใจลากเท้ากลับบ้านด้วยความเหนื่อยอ่อน วันนี้ไม่มีพริ้งเพรามากวนใจทำให้เธอรู้สึกดีขึ้นมาพอสมควร นึกสมน้ำหน้าที่โดนเธอเล่นงานจนหนีกลับบ้านไปเลย จอมใจเผลอยิ้มออกมาอย่างขบขันขณะที่ก้าวเท้าเข้าไปยังห้องโถงของบ้านหลังใหญ่"ว่าไงจอม วันนี้อารมณ์ดีมาเลยนะ" จอมใจเดินเข้ามาหาบิดาที่นั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ตรงโซฟาตัวใหญ่ในห้องรับแขก"ก็นิดหน่อยค่ะ แล้วแม่ล่ะคะ" "อยู่ข้างบนน่ะ มีอะไรรึเปล่า" จอมใจทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาอีกด้าน"จอมว่าจอมจะไปพักผ่อนที่ต่างจังหวัดค่ะ หมู่นี้ชักเบื่อๆวงการบันเทิง เดี๋ยวก็มีข่าวว่าหนูไปพร่ำพลอดรักกับคนนั้นที คนนู้นที เบื่อจะแย่" วงหน้านวลงอง้ำ พลางทำปากยื่นปากยาวเหมือนกับตอนเด็กๆที่มักจะทำอยู่บ่อยๆ"ก็เราเป็นนักแสดงนี่ คนทุกคนต่างก็ต้องสนใจเป็นธรรมดา" ยศวินปลอบโยนลูกอย่างคนที่เข้าใจเพราะตัวเขาเองก็อยู่ในวงการนี้มาหลายปี จอมใจถือว่าเจริญรอยตามผู้เป็นพ่อได้อย่างไม่ผิดเพี้ยน ในตอนนี้ใครต่อใครต่างก็รู้จักสาวน้อยคนนี้แทบทุกคน ก็เพราะนิสัยตรงไปตรงมา และความนอบน้อมถ่อมตนของเธอนั่นเองที่ทำให้ใครๆบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้นจริงๆ...."จอมก็เข้าใจนะคะ แต่ตอนนี้อยากพักการแสดงสักหน่อย รู้สึกเหนื่อยๆยังไงไม่รู้""แล้วจะไปที่ไหนล่ะ ไปทะเลดีมั้ย" จอมใจสั่นศีรษะดิก หญิงสาวไม่ชอบทะเลเพราะมันดูเวิ้งว้างแถมยังทำให้เธอรู้สึกอึดอัดด้วย"จอมจะไปเชียงใหม่ค่ะ" จอมใจนึกถึงบทสนทนาเมื่อตอนเย็นก่อนกลับบ้านที่อิศยาโทรมาชวนเธอให้ไปทานข้าวที่บ้าน หากเธอเองตอบปฏิเสธไปเพราะรู้สึกเหนื่อยเกินกว่าจะเดินทางไปไหนต่อไหนได้อีก"เหนื่อยมากเหรอ จอม" คำถามห่วงใยของเพื่อนสนิททำให้จอมใจตอบรับแต่โดยดี"ถ้าเหนื่อยมาก ลองไปพักผ่อนดีมั้ย ไปพักที่ไร่พี่ซันมั้ย" คำแนะนำของอิศยาทำให้แววตาที่ดูเหนื่อยหน่ายเปล่งประกายสดใสขึ้น"วันนี้พี่ซันมาหาฉันกับแม่ด้วย แต่ต้องรีบกลับไปดูแลไร่น่ะ เสียดายจังที่แกไม่ได้พบ ตกลงแกจะไปมั้ย ฉันจะได้โทรไปบอกพี่ให้" คำเชิญชวนช่างยั่วยวนเสียจนหญิงสาวตอบรับไปอย่างง่ายดาย เธอนึกอยากเห็นไร่กาแฟที่อิศยาอวดนักอวดหนาว่าสงบเงียบเหมาะกับการพักผ่อนอย่างแท้จริงดังนั้นจอมใจจึงเตรียมตัวเก็บกระเป๋าเดินทางสู่เชียงใหม่ในอีกสองวันข้างหน้าด้วยความรู้สึกตื่นเต้น เพราะในรอบหลายปีที่ผ่านมาเธอไม่เคยเหยียบย่างออกจากกรุงเทพไปที่ไหนเลย ครั้งนี้ถือเป็นการเที่ยวที่เธอคิดว่าคงมีความสุขที่สุด!แสงแดดยามเช้าที่ตัดผ่านม่านหมอกดูงดงามซะจนชายหนุ่มร่างสูงเผลอยืนเหม่อมองอยู่นานแสนนาน เสียงนกร้องวะแว่วผ่านลมหนาวมาให้ได้ยิน ใบหน้าค่อนข้างขาวเงยขึ้นมองหมอกหนาที่ลอยปกคลุมไปทั่วบริเวณอย่างสุขใจ ริมฝีปากหยักสวยราวอิสตรีแย้มออกนิดๆ ดวงตาเรียวเป็นประกายระยับบอกชัดว่ายามนี้ "นายใหญ่" แห่งบ้านแสงตะวันกำลังสุขใจเพียงใดชายหนุ่มนึกถึงเมื่อวันก่อนที่เขาเดินทางไปเยี่ยมน้องและมารดาที่บ้านในกรุงเทพ ดูทั้งสองสุขสบายดีเขาก็เบาใจ นึกอยากให้ทั้งอิศยาและคุณวิกานดาย้ายมาอยู่ที่บ้านแสงตะวันกับเขา หากเพราะแม่น้องสาวตัวดียังติดใจในแสงสีที่กรุงเทพ และยังสนุกกับงานอยู่จึงยังไม่ยอมย้าย นึกมาถึงตรงนี้อาทิตย์ก็ถอนหายใจยาว....นี่เขาจะต้องเดนทางไปกลับ กรุงเทพ-เชียงใหม่ อีกนานสักแค่ไหนเชียว!...นาฬิกาข้างฝาภายในห้องรับแขกตีบอกเวลาแปดนาฬิกาทำให้อาทิตย์หยุดความคิดทั้งหมดทั้งมวลไว้แค่นั้น ชายหนุ่มสาวเท้าออกจากบ้านร้องเรียกหาใครคนหนึ่งอยู่ครู่ใหญ่"ไอ้ชาติ! อยู่ไหนวะ!" ไม่นานนักชายฉกรรจ์รูปร่างสูงใหญ่ ไว้หนวดไว้เคราก็เดินออกมาจากทางหลังบ้าน"ครับนาย" เขาก้มศีรษะยืนรอรับคำสั่งอย่างนอบน้อม"แกอยู่เฝ้าบ้านให้ด้วย เดี๋ยวฉันจะไปรับเพื่อนของอิศยาในเมือง คงสักพักแหละถึงจะกลับ" เมื่อเห็นลูกน้องน้อมรับคำสั่ง เขาก็ตรงดิ่งไปยังรถกระบะคันใหญ่ที่ดูสมบุกสมบันราวกับใช้งานมันมานานอาทิตย์ออกจะแปลกใจเล็กน้อยที่อิศยาโทรศัพท์มาบอกว่าจะมีเพื่อนมาพักที่รีสอร์ท เขายังจำได้ถึงเสียงใสๆที่บอกอย่างร่าเริง"พี่ซันขา พรุ่งนี้เพื่อนน้ำจะมาพักที่ไร่ของเรา พี่ซันช่วยต้อนรับเค้าหน่อยนะคะ ตอนนี้น้ำกำลังยุ่งมากเลยค่ะ ไม่มีเวลาไปหาพี่ซันเลย ขอส่งเพื่อนไปเยี่ยมแล้วกันนะคะ ไอ้จอมมันกำลังเซ็งชีวิตที่นี่น่ะค่ะ มันกะจะไปอยู่สักอาทิตย์-สองอาทิตย์ ช่วยดูแลมันด้วยนะคะ" เสียงเล็กๆของแม่น้องสาวตัวดีดังมาตามสาย หากเขาก็ยุ่งเกินกว่าจะสนใจ จับได้เพียงรางๆว่าเพื่อนยัยน้ำจะมาพักที่ไร่...เหมือนจะชื่อ "ไอ้จอม" แถมเจ้าน้องตัวดียังฝากฝังเขาดูแลซะด้วยทั้งๆที่งานเขาก็ล้นมือจะแย่ อาทิตย์นึกใบหน้าคนที่ชื่อ "ไอ้จอม" ได้รางๆ ภาพชายหนุ่มตัวสูงไว้ผมยาว ไว้หนวดไว้เคราปรากฏแจ่มกระจ่างชัดในมโนภาพ ...ก็น้องเขามันเรียนสถาปัตย์...เพื่อนผู้ชายที่มันเคยพามาที่ไร่ก็ออกแนวนี้ทั้งนั้น "ไอ้จอม" คนนี้คงไม่พ้นแบบนั้นเท่าไหร่นักหรอกสรุปเอาเองเสร็จสับเจ้าตัวก็นึกโมโห...เป็นผู้ชายแท้ๆ ทำไมต้องฝากให้เขาดูแลด้วยวะ!...หากไม่นานนักภาพชายหนุ่มมาดเซอร์ที่เขาคิดไว้ว่าจะเป็น "ไอ้จอม" กลับต้องมลายไปจนหมดสิ้นเมื่อคนที่เขาเจอไม่ได้เป็นอย่างที่เขาคิดแม้แต่น้อย

No comments: