Tuesday, November 11, 2008

รักวุ่นๆ ของหนุ่มมาเฟีย ที่ขอเคลียร์กับ...สาวสารวัตรนักเรียน

นิยายรักเรื่องต่อมา
รักวุ่นๆ ของหนุ่มมาเฟีย ที่ขอเคลียร์กับ...สาวสารวัตรนักเรียน
ความเป็นมา จุดเริ่มต้น และรักแรก
ณ ห้องสารวัตรนักเรียน
และจุดสนใจของห้องนี้ก็คงจะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากโต๊ะหัวหน้าสารวัตรนักเรียนที่ก่อนหน้านี้เคยว่างเปล่า แต่บัดนี้เห็นทีจะไม่ใช่ เพราะการเลือกตั้งคณะสารวัตรนักเรียนเพิ่งผ่านไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ที่เชือดเฉือนระหว่าง รุ่นน้องสุดซ่าส์ กับ รุ่นพี่สุดเก๋า ที่นั่งเก้าอี้สารวัตรนักเรียนมาหลายสมัย แต่ผลก็ออกมาอย่างคาดไม่ถึง
“อะไรนะ ที่รุ่นน้องพวกนั้นได้เป็นสารวัตรนักเรียนแทนรุ่นพี่รุ่นเดิมจริงหรอ”
“ไม่อยากเชื่อเลย เป็นรุ่นน้องแท้ๆ โค่นรุ่นพี่ได้ยังไงกัน”
“อะไรกัน ไอ้พวกแก็งค์เด็ก 4 คนนั่นอีกแล้วหรอ”
“สงสัยจะได้คะแนนจากที่ปราบพวกโจรเรียกเงินได้”
และนี่ก็เป็นเสียงของนักเรียนกลุ่มหนึ่งที่ออกจะนินทา(ดัง)ถึงสารวัตรนักเรียนคณะใหม่นี้ คนในโรงเรียนนี้ออกจะแปลกหน่อยๆ จะพูดถึงแต่เรื่องสารวัตรนักเรียนซะส่วนใหญ่ ไม่ค่อยจะสนใจคณะกรรมการนักเรียน ทั้งที่พวกคณะกรรมการนักเรียนก็มีส่วนในการพัฒนาโรงเรียน ส่วนสารวัตรนักเรียนก็มีหน้าที่จับผู้ที่ทำผิดมาลงโทษ
ชื่อที่ติดหน้าโต๊ะหัวหน้าสารวัตรนักเรียนแทนชื่อเดิมคือ “ณัฏฐ์รี หรือ ณัฏฐ์ ” สาวขรึมผู้มีแววตาน่ากลัว ที่ใครๆเห็นเป็นต้องหลบสายตาคู่นั้น เธอมักจะไม่แสดงความรู้สึกอะไร แต่เธอจะใช้ตาโตคู่สวยสีดำสนิทของเธอแสดงแทน เธอมีสมองอันปราดเปรื่องที่สามารถคิดอะไรได้เร็วมาก และหัวหน้าสารวัตรนักเรียนจึงเหมาะสมกับเธอ เธอยังมีผู้ช่วยที่คอยช่วยเหลือนั่นก็คือเพื่อนในแก็งค์ของเธอนั่นเอง รองประธานสารวัตรฯ คือ “ศศิริตา หรือ ริต้า” สาวเปรี้ยวที่คอยหว่านเสน่ห์ให้ชายทั้งโรงเรียนจนต้องแทคะแนนให้พรรคของเธอ เธอเป็นลูกครึ่งแววตาของเธอจึงมีสีเขียวใสน่ามองยิ่ง และรองประธานสารวัตรฯอีกคนคือ “ศนานันท์ หรือ นันท์” สาวแสบที่ใครๆก็ต้องยอมรับในความซ่าส์ของเธอ เธอร่าเริง และยิ้มง่ายจนทำให้แววตาสีน้ำตาลของเธอนั้นดูสดใสยิ่ง อีกหนึ่งตำแหน่งคือ เลขาฯ และผู้รับตำแหน่งนี้คงหนีไม่พ้น “ชุตรีภรณ์ หรือ ชุตรี” สาวหวานที่ได้ตาสีฟ้ามาเพิ่มความหวามให้แก่เธอ เธออ่อนโยนจนทุกๆคนในแก็งค์เห็นว่าเธอเป็นน้องสาวที่น่ารัก
“เฮ้ย !ยัยณัฏฐ์ดูเก้าอี้นั่นเหมาะกับแกจังเลยนะ”เสียงใสแจ๋วของศนานันท์เอ๋ยขึ้นหลังจากที่ทุกคนขะมักเขม้นกันจัดของเพราะว่าพวกเธอจัดห้องใหม่ในเวลาบ่ายวันที่พระอาทิตย์แจ่มใสอย่างนี้
“เออใช่!ยัยณัฏฐ์ มิน่าล่ะพวกรุ่นพี่ถึกพวกนั้นถึงชอบนั่งกันจัง” สาวเปรี้ยวประจำแก็งค์ของเอ่ยบ้าง
“พวกเธอก็ชอบว่าให้พี่เค้า พี่เค้าไม่ได้ถึกซะหน่อย” ชุตรีแย้ง
“เออไม่ถึก แต่ก็ไม่มีสมอง”
“เออ หัวหน้าคะจะให้จัดห้องเอกสารใหม่รึเปล่าคะ” เสียงของ “วีนัสนันท์ หรือ วีนัส”ดังขึ้นถามณัฏฐ์ เธอเป็นคนในพรรคที่มีหน้าที่ดูแลห้องเอกสารและเอกสารทุกฉบับ
“จัดใหม่หมดเลยก็ได้ แต่ทุกคนต้องช่วยแยกเอกสารที่จะนำเข้าประชุมวันจันทร์นี้ด้วยนะที่เขียนบอกไว้น่ะ
“ค่ะหัวหน้า”
“เออ!คุณพีรศักดิ์ จัดตั้งสายสืบลับแล้วก็กำลังเสริมเสร็จรึยังคะ เดี่ยวชุตรีจะจัดทำเอกสารให้คุณวีนัสเค้าเอาไว้ในห้องเอกสาร” ชุตรีถามคุณ “พีรศักดิ์ หรือ พี” เขาคือผู้กุมความลับเพราะเขาเงียบขรึม เขาจึงมีหน้าที่ดูแลเรื่องสายสืบลับแล้วก็กำลังเสริมที่จะไม่แสดงตนให้ผู้อื่นรู้ว่าเกี่ยวข้องกับสารวัตรนักเรียนเพื่อจะใช้ล้วงสืบความลับ
“เรียบร้อยแล้วครับ นี่ครับ” พีรศักดิ์พูดพลางส่งเอกสารให้ชุตรี
“เฮ้ย !เปรมตรวจเครื่องสแกนนิ้วมือที่ห้องเอกสารเปลี่ยนข้อมูลใหม่หมดเลยนะ เช็คหรือยัง” เสียงนันท์ร้องถาม “เปรมศักดิ์ หรือเปรม” หนุ่มร่าเริงที่ดูแลเครื่องอิเลกทรอนิกส์ สร้างอุปกรณ์ใหม่ๆ
“จวนจะเสร็จแล้วคร้าบ คุณรองประธาน” เปรมพูดพลางล้อเลียน
“เออ ทุกคนครับผมติดตั้งโปรแกรมสำหรับสารวัตรนักเรียนโดยเฉพาะให้กับทุกเครื่อง โปรแกรมนี้เป็นเวอร์ชั่นล่าสุดที่สามารถล๊อคข้อมูลสำหรับผู้ใช้เท่านั้นแล้วนะครับ เดี๋ยวทุกคนลองตรวจเช็ค แล้วถ้าบกพร่องตรงไหนผมจะได้นำไปแก้ไข” เสียงของ “รณภพ หรือ ภพ” เด็กแว่นโปรแกรมเมอร์ ที่มีหน้าที่ดูแลเรื่องคอมพิวเตอร์พูดกับทุกคน
“เยี่ยมมากรณภพ ขอบใจมาก”
“ขอบคุณครับหัวหน้า”
และกว่าทุกคนจะเสร็จภารกิจแจ๋วก็ทุ่มพอดี
“โอ้ย!หิวข้าว ทำไมเหนื่อยอย่างนี้นะ” เสียงริต้าบ่น
“งั้นไปทานข้าวกันดีกว่า เดี๋ยวฉันเลี้ยงเอง”
“โอ้โห!ณัฏฐ์ใจดีจังเลย” สาวหวานเอ่ยชม
“งั้นวันนี้ผมไม่เกรงใจล่ะนะครับ คุณหัหน้า”
“ณัฏฐ์ ริต้า นันท์ ตื่นเร็ววันนี้เราจะได้ทราบว่าที่เราไปสอบอบรมการเป็นสารวัตรนักเรียนเราได้ผลยังไงบ้าง” ชุตรีเรียกทุกคนตื่นด้วยความตื่นเต้น
พอทำธุระส่วนตัวเสร็จพวกเธอก็รีบไปทานอาหารเช้าที่โรงอาหารแล้วก็รีบไปยังห้องผู้อำนวยการ
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“ขออนุญาตค่ะ /ครับ”
“อ้อ คณะสารวัตรนักเรียนชุดใหม่ แหมมากันแต่เช้าเชียว” ผู้อำนวยการทักทายด้วยท่าทีร่าเริง
“เอานี่!จดหมายผลการสอบอบรมของพวกเธอ” เขาส่งซองสีน้ำตาลให้ทุกคน
รณภพ วีนัส เปรม ได้ 3 ดาว ชุตรี นันท์ และริต้าได้ 4 ดาว ส่วนณัฏฐ์ ได้ 5ดาว ซึ่งมี 2คนในประเทศ ที่ได้เป็นสารวัตรนักเรียนพร้อมดาว 5 แฉกทองคำ ใช้ที่ที่แขนเสื้อทางด้านซ้าย
“ราศีจับเชียวนะยัยณัฏฐ์” นันท์แซว
“ก็ไม่แพ้กันนี่”
“หัวหน้านี้ค่ะจดหมายของหัวหน้า แล้วก็รองประธาน รวมทั้งเลขาฯด้วยค่ะ” เอวางกล่องลังที่โต๊ะชุดรับแขก
“อะไรกันมาไม่ทันไร จดหมายเพียบเลยล่ะ” ริต้าบ่น
“นี่มันจดหมายบอกรักนี่” ณัฏฐ์กล่าว
“วีนัสโยนทิ้งให้หมดเลยนะ”
“โถ่! ทำไมใจร้ายจังณัฏฐ์จะไม่มานับหน่อยหรอว่าของใครได้เยอะกว่ากัน” ริต้าแย้ง
“ชุตรีว่า ริต้าต้องได้เยอะสุดอยู่แล้ว”
“แหม!ชุตรีก็พูดเกินไป ยังไม่ทันได้นับเลย แต่เออ!จริงสิเมื่อวานจีบยังไม่เสร็จหนึ่งรายว่าจะไปจีบต่อซักหน่อยรู้ไหม ถ้าฉันจีบรายนี้สำเร็จนะเราจะล้วงลึกถึงแก็งค์ซามูไรดำได้ง่ายข้น” ริต้าบอกด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์
“ทำไมหรอยัยริต้า” นันท์ถาม
“ก็เขาเป็นมือขวาของหัวหน้าแก็งค์นะสิ”
“งั้นก็รีบไปซะ” ณัฏฐ์พูดด้วยท่าทีนิ่งเฉย
“โอ้โห!พอรู้ว่ามีประโยชน์ก็รีบผลักไสไล่ส่งเลยนะยะ ไปก็ไป”
ผลัก!
“โอ้ยเจ็บนะ ใครเนี่ยเปิดมาได้”ริต้าพูดพลางโอดโอยหลังจากถูกผู้ที่มาใหม่ผลักประตูชนใส่ลงไปกองตรงพื้น
“ขอโทษครับ ผมไม่ได้ตั้งใจ คือผมไม่เห็นขอโทษจริงๆครับ”หนุ่มแปลกหน้าพูดพลางช่วยเหลือริต้า เขาเป็นหนุ่มผมดำสวมแว่นตา ตัวสูง ผอม ผิวขาว และตาโต และตอนนี้เขาพาริต้าไปนั่งที่โซฟา
‘หน้าตาคุ้นๆแฮะ เหมือนเคยเห็นที่ไหน’ณัฏฐ์คิดในใจ
และตอนนี้เขาเดินมาที่ณัฏฐ์
“ผมชื่อ “คินาซาว่า ยูชิ” อยู่ปีหนึ่ง เกรด A ผมชอบผมชอบคุณณัฏฐ์มานานแล้ว กรุณาคบกับผมด้วยเถอะครับ” ตอนเขาพูดหน้าแดงพร้อมกับก้มศีรษะโค้งลง
“ก็ได้”ณัฏฐ์ตอบ
“เฮ้ย!ยัยณัฏฐ์แกจะบ้าหรอ เฮ้ย! ไม่ใช่แกคิดดีแล้วหรอ”นันท์ถามอย่างตกใจ
“ฉันคิดดีแล้ว” ณัฏฐ์ตอบอย่างมั่นใจ
แกร๊ง
“ได้เวลาเข้าชมรมแล้ว”
“ณัฏฐ์อยู่ชมรมอะไรหรอครับ” ยูชิถามณัฏฐ์
“ดนตรีและการแสดงน่ะ แล้วยูชิล่ะ”
“ผมอยู่ชมรมบาสฯครับ”
แล้วยูชิก็ส่งณัฏฐ์ถึงชมรม ทุกสายตาจับจ้องพร้อมยิงคำถาม
“ณัฏฐ์คิดดีแล้วหรอ”แต่เธอก็ตอบเช่นเดิม
“ชั้นคิดดีแล้ว”
การเข้าชมรมผ่านไปด้วยดี ขณะที่ณัฏฐ์กำลังเดินกลับคนเดียว
“เฮ้ย!แกทำไมชอบเสนอหน้าจังไอ้จืด” เสียงอันโหด^_^มดังจากซอกตึก
“ทำเป็นไปส่งณัฏฐ์ถึงชมรมได้หน้าไม่อาย” ตุบ! เสียงตะคอกพร้อมกับเสียงหมัดที่ใครโดนต้องเลือดกบปากเป็นแน่
“แกเป็นอะไรกับณัฏฐ์ถึงกล้าทำหยามน้ำหน้าพวกเรา”
“เฮ้ยรุมมันดีกว่า”
‘นั่นมันยูชินี่ ถ้าถูกรุมอย่างนั้นต้องตายแน่ๆ’ณัฏฐ์คิดในใจ
“หยุดนะ!” ณัฏฐ์ตัดสินใจห้าม(ตามแบบฉบับนางเอกแถมเป็นนางเอกที่เป็นสารวัตรนักเรียนอีกต่างหาก)
“ใครน่ะ”เสียงหนึ่งถามขึ้นจากกลุ่มผู้ชายประมาณ 7-8 คน และยูชิก็นอนอาบเลือดที่ทั้งโดนเตะ ต่อย ทุกด้วยไม้เบสบอล ใต้พระบาทของพวกมัน
“ณัฏฐ์” ทุกคนเอ่ยขึ้นพร้อมกัน
“พวกนายทำอะไรเค้า” ณัฏฐ์ถามด้วยสายตาที่ดุดัน
“ก็มันอยากเสนอหน้ามาเดินกับณัฏฐ์นี่”
“ใครจะเดินกับชั้นมันก็ไมเกี่ยวกับนาย เพราะชั้นไม่ได้เป็นอะไรกับนาย และอีกอย่างยูชิก็แฟนชั้น แฟนเดินกับแฟนก็ไม่เห็นแปลกอะไรนี่” ณัฏฐ์สวน
“อะไรนะ ไอ้หน้าจืดนี่เป็นแฟนณัฏฐ์หรอ? ณัฏฐ์ทำไมต้องเลือกคนอย่างนี้ ณัฏฐ์ก็เห็นมันไม่มีอะไรดีเลย ปกป้องณัฏฐ์ก็ไม่ได้”
“ชั้นไม่ได้อยากให้ใครมาปกป้องดูแล และอีกอย่างชั้นจะเลือกใครมันก็เรื่องของชั้น”
“อ้าว!ณัฏฐ์อยู่นี่เอง เฮ้ย!นี่มันเกิดอะไรขึ้น” ริต้าที่เพิ่งมาถามอย่างตกใจ ตามมาด้วยนันท์ และชุตรี
“พวกนายหยุดตรงนั้นเลยนะ อย่าขยับ เออ!พวกนายผิด เออ...บัญญัติ เอ้ยไม่ใช่!กฎหมาย...” นันท์พูดอย่างตะกุกตะกัก
“ตามกฎหมายระเบียบสถานศึกษา ฉบับที่ 32 ข้อที่ 15 บรรทัดที่ 3 ผู้ใดก่อการทะเลาะวิวาทหรือทำร้ายผู้อื่นโดยเจตนาถือว่ามีความผิด”ชุตรีกล่าวอย่างผู้เชี่ยวชาญ
“เออใช่!นั่นแหละกฎหมายอะไรวะยาวเป็นบ้าเลยใครจะจำหมด”นันท์กล่าวอย่างหงุดหงิด
“เฮ้ยหนีเร็ว!” พวกมันพูดเสร็จก็ไม่รอช้าวิ่งอ้อมหลังตึกอย่างรวดเร็ว
“เดี่นวพวกเธอจัดการให้ทีนะ” ณัฏฐ์พูด
“ไม่มีปัญหา” ทุกคนพูดพร้อมกันพลางวิ่งตามไป
ณัฏฐ์เดินไปที่ยูชินอนอยู่ ใบหน้าที่หล่อเหลาของเขาบัดนี้มีเพียงเลือดและรอยฟกช้ำ ดวงตาที่ใกล้ปิดยังพยายามมองมาที่คนที่เขารัก
‘เขาปกป้องเธอไม่ได้อย่างที่พวกนั้นพูดจริงๆ เขามันไม่ได้เรื่อง ไม่มีข้อดีเลยซักอย่าง’
“ณัฏฐ์ผมขอโทษ ขอโทษที่ทำให้เกิดเรื่อง ขอโทษที่ขี้ขลาด ขอโทษที่อ่อนแอ”เขาพูดพลางจับมือณัฏฐ์ไว้
“ไม่จำเป็นหรอก มันไม่ใช่ความผิดของคุณ...ไปห้องพยาบาลกัน”ณัฏฐ์พูดแล้วพยุงยูชิขึ้นมือพาดบ่าแล้วพยุงเขาเดิน
2
จดหมายปริศนา
ณ ห้องพยาบาล
“โอ้ย!เจ็บจัง”ยูชิอุทาน
“เจ็บหรอ ขอโทษนะ เป็นคนมือหนักน่ะ”ณัฏฐ์พูดพลางทำแผลให้ยูชิ
“ไม่เป็นไรครับ ก็ไม่ค่อยเจ็บเท่าไหร่หรอกครับ”
“เรื่องมันเป็นยังไงหรอ” ณัฏฐ์ถาม
“คือ...ผมกำลังจะไปรับณัฏฐ์ที่ชมรม พอผ่านซอกตึกพวกมันก็ลากผมเข้าไปรุมซ้อม ผมนี่มันแย่จริงๆเกิดมาผมยังไม่เคยมีเรื่องกับใครมาก่อนแม้แต่ต่อยคนผมก็ยังไม่เคย ผมมันขี้ขลาด แม้แต่ตัวเองยังเอาตัวไม่รอด คงไม่มีปัญญาไปปกป้องใครเค้าได้”ยูชิกล่าวอย่างเศร้าๆ
“คนเราน่ะมีอะไรต่างกันมากมาย และในความต่างนั้นก็จะมีข้อดีอยู่ในตัวของมันเอง มันอยู่ที่เราจะมองมันยังไง ฉันไม่อยากให้ใครมาปกป้องดูแลหรอกนะ เพราะฉันไม่ได้อ่อนแอ ยูชิเองก็ไม่ต้องมาปกป้องฉันหรอก เป็นตัวของตัวเองนั่นแหละดีที่สุดแล้ว”ณัฎฐ์พูดด้วยแววตาเชื่อมั่น
“ครับ ผมจะเป็นตัวของตัวเอง เป็นผู้ชายคนนี้คนที่รักคุณณัฎฐ์หมดหวใจ”
“ยูชิรักฉันเพราะอะไรหรอ”ณัฎฐ์ถาม
“เพราะ...เออ...เพราะคุณณัฎฐ์เป็นคุณณัฎฐ์น่ะสิครับ”ยูชิตอบพลางยิ้ม
“แล้วถ้าวันหนึ่ง ฉันถูกรถชนสมองกระทบกระเทือนไม่ฉลาดเหมือนเดิมถูกปลดจากตำแหน่งสารวัตรฯแถมหน้าตายังดูไม่ได้อีก ยูชินายจะรักฉันอีกไหม”
“แล้วคุณณัฎฐ์ยังเป็นคุณณัฎฐ์นรีอยู่ริเปล่าล่ะครับ ถ้ายังเป็นอยู่ ผมก็คงจะยังรักคุณณัฎฐ์อยู่เสมอ แม้ว่าถึงวันนั้นคูณจะจำผู้ชายคนนี้ไม่ได้เลยก็ตาม”ยูชิตอบอย่างมั่นใจ
ทางด้านนันท์ ริต้า และชุตรี หลังจากที่จับพวกที่ซ้อมยูชิได้แล้วก็ให้พีรศักดิ์เป็นคนสอบสวนและจัดการต่อ
“นี่ทุกคนเดี๋ยวฉันขอตัวนะจะไปจีบหนุ่มแห่งแก็งค์ซามูไรดำต่อนะ ไปล่ะแล้วเจอกัน”ล้วริต้าก็เดินออกไป
“นันท์ ส่งรายงานหรือยัง”ชุตรีถามนันท์
รายงานอะไรหรอ”
“เอ้า!ก็รายงานวิชาประวัติศาสตร์ที่นันท์ให้ชุตรีช่วยทำเมื่อคืนไง”ชุตรีว่าต่อ
“เออ!จริงสิ ยังไม่ได้ส่งเลย ภายในวันนี้ใช่ไหม เออไม่ใช่เช้าวันนี้นี่นา แย่แล้วนี่มันปาเข้าไป 11 โมงแล้วนี่ อาจารย์อัมภาแว้ดแน่ๆ ยิ่งรายงานนั้นส่งช้า 3 ชั่วโมง เทศนาต่ออีก 1 ชั่วโมง ทดเวลาหายใจอีก 30 นาที ช่วยงาน 1 ชั่วโมง รับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับที่ส่งอีก 30 นาที ตกนรกยังจะดีกว่าซะอีก ฟังยมราชเล่ากรรมเลวกรรมชั่วยังสนุกกว่าฟังยัยแก่คร่ำวิชานี่พูดซะอีก ไปก่อนนะงานนี้ต้องใช้แผนเลวเข้าช่วย ไปล่ะ”ว่าแล้วนันท์ก็เดินจากไปอีกคน
‘เฮ้อ!นันท์นะนันท์ สมกับเป็นนันท์นักวางแผนจอมแสบจริงๆ งานไหนๆไม่เคยเครียด รายงานนี้เขาส่งตั้งแต่เดือนที่แล้วเพิ่งทำเมื่อคืน ก็ยังเสร็จจนได้’
ชุตรีบ่นในใจ แล้วเดินออกจากห้องไป เพื่อไปห้องสมุดซึ่งอยู่ที่ตึกปฏิบัติการชั้น 3
เธอเดินเข้าไปในห้องสมุดที่เงียบ มีคนไม่มากนัก เพราะทุกคนทยอยกันทานข้าวกันหมด เธอไปยังชั้นหนังสือใช้นิ้วไล่สันหนังสือไปเรื่อยๆ เพื่อดูชื่อหนังสือที่ต้องการอ่าน ‘เรื่องง่ายๆและจริงของสิ่งที่เรียกว่ารัก’ มันเป็นหนังสือเล่มหนา ซึ่งส่วนใหญ่จะไม่มีใครแตะแต่ส่วนใหญ่นั้นจะไม่รวมชุตรีด้วยแน่ๆ เพราะไม่ว่าหนังสือจะหนาหรือบางก็ไม่ใช่อุปสรรคในการอ่านของเธอ เธอแบกมันขึ้นมาคงจะหยิบมันไม่ได้เพราะมันหนามากหนายิ่งกว่าHarry Potter เล่ม 5 :tvud
‘ไม่นึกไม่ฝันว่า ตำรารักจะมีมากขนาดนี้’ชุตรีกล่าวในใจ
เธอนั่งอ่านไปเรื่อยๆจนถึงหน้าที่ 13 มีจดหมายฉบับหนึ่ง
‘คงต้องเสียมารยาทหน่อยล่ะ โดยเฉพาะเด็กมารยาทงามอย่างเธอ เฮ้อ!ก็มันอดใจไม่ได้นี่ทำไมต้องเอาจดหมายมาลืมทิ้งไว้ในหนังสือของสาธารณชนด้วยล่ะ ช่วยไม่ได้เปิดอ่านหน่อยล่ะกัน’และแล้วเธอก็เปิดอ่านจดหมายฉบับนั้นอย่างเสียมารยาท จดหมายฉบับนี้ก็ดูธรรมดา ไม่มีอะไรพิเศษมากนัก ไม่จ่าหน้าซอง
แด่ผู้ที่มีความมุ่งมานะ อุตสาหะ อีกทั้งวิริยะ(เฮ้อ!ขึ้นต้นแปลก:ชุตรี)
ผมไม่ประสงค์ออกนาม แต่เรียกผมว่า K.V. อันที่จริงผมตั้งใจจะลืมจดหมายฉบับนี้ไว้ในตำรารักที่ผมรัก ‘เรื่องง่ายๆและจริงของสิ่งที่เรียกว่ารัก’ซึ่งจากสภาพการณ์ของหนังสือเล่มนี้แล้ว ผมขอฟันธงว่าไม่ค่อยมีใครอยากแตะมันซักเท่าไหร่ แต่ผู้ที่ได้แตะและแบกมันขึ้นมาอ่านจนได้รับจดหมายฉบับนี้ ผมขอนับถือวัตถุประสงค์ของผมคือต้องการจะระบาย เล่าถึงเหตุการณ์ในอดีตซึ่งก็เกี่ยวกับความรักของผมให้กับผู้ที่มีความรู้เรื่องของความรัก จากหนังสือเล่มที่กล่าวถึงได้ใช้วิจารณญาณในการวิเคราะห์... ความรักของผมเกิดขึ้นจากการสูญเสีย เธอเหยียบ^_^บเพลงของผม ^_^บเพลงอันแรกที่พ่อผมซื้อให้ ^_^บเพลงที่ผมรักมากที่สุด แต่บัดนี้มันได้แหลกคาเท้าเธอ ผมโกรธจนหน้าแดง ผมจ้องหน้าเธอ แต่แล้วหัวใจผมแทบละลาย เธอหน้าตาน่ารัก แต่บัดนี้เธอทำน้ำตาคลอเบ้าเสียใจซะเต็มประดา(ทำอย่างกับว่า^_^บเพลงนั้นของเธอ) เธอบอกว่าเธอขอโทษ เธอไม่ได้ตั้งใจ เธอยินดีจะชดใช้ และเธอพูดเหมือนเธอรู้ใจผมว่านั่นเป็น^_^บเพลงที่ผมรัก ‘แต่ถึงจะชดใช้ยังไง ซื้อมาให้ใหม่มันก็แทนอันเดิมไม่ได้ใช่ไหมค่ะ’ เธอพูดพลางน้ำตาคลอเบ้าจนผมใจอ่อน วันต่อมาเธอซื้อ^_^บเพลงอันใหม่ให้ผม เธอบอกผมว่า ถึงมันจะแทนอันเดิมไม่ได้ แต่เธอก้ให้ด้วยใจ เฮ้อ!เธอน่ารักซะจนผมอดหลงรักเธอตั้งแต่แรกพบไม่ได้ ตั้งแต่นั้นมาผมก็ตามจีบเธอ เธอนิสัยดีมาก เรียบร้อย ผมมีคู่แข่งมากมาย
วันหนึ่งผมสารภาพรักเธอ ผมนำสร้อยมีจี้รูปกุญแจซอลสีฟ้ามอบให้และบอกรักเธอ เธอตกลงคบกับผม เหตุผลคือเธอรอผู้ชายที่มอบสิ่งของสีฟ้า ในคืนวันคริสต์มาสอีฟ ตอนเที่ยงคืน ซึ่งตอนนั้น เวลานั้น และนาทีนั้น อันที่จริง ผมก็ไม่ได้ตั้งใจจะให้ตอนนั้น แต่ผมนัดเธอตอนสี่ทุ่ม เพราะจะมีการจุดพลุเฉลิมฉลอง แต่ผมคิดว่าควรจะซื้อของมอบให้ซักหน่อยนอกจากดอกไม้ ผมก็เลยเดินดูจนถึงสามทุ่มครึ่ง จนได้สร้อยดังกล่าวข้างต้น ผมหาซื้อดอกไม้ ผมคำนวณเวลาว่านั่งรถครึ่งชั่วโมงถึงทันแน่ๆ แต่รถเกิดเสีย ซึ่งไม่มีรถคันอื่นเลย ผมก็รอจนถึงห้าทุ่ม ขณะที่ผมโทรศัพท์เข้ามือถือเธอ เธอปิดเครื่อง ผมจึงตัดสินใจวิ่งให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้ แต่ก็ต้องแปลกใจเมื่อไปถึง เธอยังรอผมอยู่ และเวลานั้นเที่ยงคืน...
ผมคิดว่าจดหมายฉบับนี้คงเล่าถึงจุดเริ่มต้นของความรักเท่านี้ก่อดีกว่าไว้กรุณาติดตามรอจดหมายฉบับต่อไปในหนังสือเล่มเดิม เมื่อไหร่นั้นยังไม่ทราบ แค่นี้ก่อนนะครับ แล้วเจอกัน
ชายนิรนาม
ปล.กรุณาเก็บจดหมายฉบับนี้ไว้ด้วย ถือซะว่าขอร้อง
ปล.และอย่าพยายามตามหา หนุ่มนิรนาม K.V.ผู้นี้ เพราะถ้าตามก็คงจะไม่มีจดหมายฉบับต่อไป
เฮ้อ!คนแบบนี้ก็มีในโลก แต่เก็บไว้ก็ได้ ฟังฟังดูน่าติดตามดี...ชุตรีกล่าวพลางเก็บจดหมายไว้ในกระเป๋า แล้วอ่านหนังสือต่อ แต่เธอคงไม่รู้ว่ามีใครบางคนจ้องมองทุกอิริยาบถของเธออยู่อย่างไม่คลาดสายตา...

No comments: