Wednesday, November 26, 2008

RaiN*สายฝน...วันหัวใจพบรัก* ตอนที่14

“ ยูคิ!! “
“ เฮ้อ -*- ยัยน้ำลายยืด เธอเป็นขอทานรึไงถึงมานั่งท่านี้อยู่หน้าห้างฯ “

ความจริงคือฉันรออากิระร่วมสามช่วโมงแล้ว อากิระ คนบ้า งี่เง่า! ไหนบอกว่าจะมาไงเล่า ฉันโดนยามสะกิดไม่รู้กี่รอบแล้วนะ -_- แต่ถึงอย่างนั้น >< ฉันก็จะรอ!



“ ทำตัวรันทดชะมัด “ ยูคิพูดตรงๆพลางมองฉันอย่างเอือมระอา

“ TT_TT อากิระ TT_TT อากิระเค้า. . .แง๊ “ น้ำตาเจ้ากรรมที่อุตส่าห์เก็บไว้ก็ร่วงแผละ

“ หยุด! ทำไมฉันเจอเธอทีไรเธอก็ต้องร้องไห้ทุกทีเลยนะ “ ยูคิว่า

ยูคิทรุดตัวลงข้างๆฉัน “ แล้วมาทำอะไรที่นี่ “
“ อย่าถาม! “
“ อ๋อ มาเดท “
“ นายรู้แล้วจะถามทำไมห๊ะ “
“ ก็แค่อยากจี้ใจดำใครบางคน^^ “ ยูคิตอบพลางยิ้มหวานหน้าระรื่น “ แล้วอากิระล่ะ “
“ ... “ ฉันสะอื้นโดยไม่ตอบ



ฝ่ายอากิระที่แบกซากุระไปส่งโรงพยาบาลรีบวิ่งมาหาริคุริที่รออยู่ทันที ห้างฯปิดแล้ว

และเขาไม่เห็นใคร. . .

“ สงสัยกลับไปแล้วมั้ง “ อากิระพึมพำกับตัวเองก่อนจะกดเบอร์ริคุริ

“ ฮัลโหล “
“ ริคุริ! เธอกลับไปแล้วเหรอ “
“ กลับไปแล้ว! ใครจะรอให้โง่! ขืนฉันรอนายฉันไม่หนาวตายก่อนเหรอ “
“ ปกติเธอเป็นป้าแก่โง่ๆนี่นา ^O^ ใครจะไปรู้ว่าฉลาดขึ้น “ อากิระพูดเสียงสดใส “ เธอไปนอนได้แล้ว! “
“ อืม “

ปิ้บ

ริคุริขดตัวอยู่บนเตียงของเธอก่อนจะสะอื้นอย่างเงียบๆ ภายใต้ผ้านวมที่คลุมตัวเธอไว้เพราะเธอรอเขาจนห้างฯปิดและกลับบ้านมาพร้อมกับยูคิ

13
“ นั่นอะไรน่ะ “
ยัยจอมจุ้นแสนวุ่นวาย! -*- ทั้งๆที่ไม่ใช่เรื่องของตัวเองแท้ๆ ยัยงี่เง่าเจ้าน้ำตาคนนี้ก็ชอบมาวุ่นกับเรื่องของผมอยู่เรื่อย
แต่ก็แปลก. . .ที่ผมไม่โกรธเธอ
ริคุริใช้ดวงตาของเธอจ้องมองถุงที่ผมหิ้วมาโรงเรียนในวันนี้ด้วยสายตาอยากรู้อยากเห็น -_- อะไรนักหนานะยัยนี่ ผมก็แค่หิ้วของมามันน่าดูตรงไหนเหรอ
“ ข้าวต้ม ขนม ผลไม้ . . .โอ้โฮ้ “ หล่อนค้นของในถุงของผมออกอย่างไม่ใยดีก่อนจะมามองผมด้วยสายตาแปลกๆ “ เก็นโด ยูคิ. . .คนอย่างนายหิ้วของพรรค์นี้มาเหรอ “
ผมแทบจะเอาถุงฟาดหัวเธอให้ตายรู้แล้วรู้รอดไป มันน่าอายอยู่หรอกที่ผมซึ่งเป็นหนุ่มสุดหล่อของโรงเรียนจะหิ้ว
’ ของพรรค์นี้ ’ มา แล้วมันจะเป็นยังไงล่ะ
ในเมื่อผมจะเอาไปเยี่ยมคนที่ผมชอบ!
“ ก็ซากุระป่วย. .. ฉัน. . .” ผมตอบเสียงเรียบและทำหน้าในเป็นปกติที่สุด แต่หญิงสาวข้างๆกลับระเบิดหัวเราะออกมาก่อน
“ ฮ่าๆ นายเลยลงทุนซื้อข้าวต้ม อะไรพวกนี้เลยเหรอ “
“ ใครบอกว่าฉันซื้อ! ฉันทำข้าวต้มเองกับมือเลยนะ! “
ผมเถียงไปสุดเสียงด้วยความอับอาย แต่ใครจะไปรู้ ว่านั่นจะทำให้เรื่องยิ่งน่าขายหน้าเข้าไปอีก
“ ข้าวต้มทำเอง! นายแน่ใจนะว่าซากุระจะรอด ไม่ใช่ตายด้วยฝีมือข้าวต้มของนาย “
ริคุริกัดผมเข้าให้ -_- จริงอยู่ที่ข้าวต้มผมดูหน้าตาแปลกๆไปหน่อย แต่ผมชิมดูแล้ว รสชาติก็ไม่ขนาดทำให้ใครตายหรอกน่า
“ เธอจะไปเยี่ยมซากุระกับฉันเย็นนี้มั้ย “ ผมชวนเธอที่ยังคงขำกับข้าวต้มฝีมือผมไม่หาย
“ -_-^ นายกำลังชวนฉันให้ไปเยี่ยมศัตรูหัวใจเหรอ “
“ งั้นมั้ง ^^ ไปด้วยกันเถอะริคุริ เธอก็น่าจะรู้ว่าฉันบอกรักซากุระไปแล้ว ฉันกลัวเข้าหน้าไม่ติด “
ตอนนี้ริคุริกำลังแกะส้มในถุงของผมกินอย่างหน้าตาเฉย!! และดูท่าจะไม่ได้ฟังผมเลย
“ อย่าห่วงไปเลยยูคิ “ ริคุริกลืนส้มลงคอก่อนจะหันมาอมยิ้มนิดๆ “ คำบอกรักของนาย. . .ซากุระเค้าคิดว่าเป็นมุกตลกนี่นา ฮ่าๆ “
-*-
“ ขอบคุณที่ช่วยซ้ำเติม “
“ ตกลง ฉันจะไป “ หญิงสาวพูดอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย “ แต่. . “
“ แต่อะไร “
ริคุริแยกเขี้ยวออกเล็กน้อยก่อนจะคว้าขนมไปทั้งหมด
“ ฉันขอไอ้พวกขนมกับผลไม้พวกนี้ละกัน. .. เออใช่ “ ริคุริยื่นกล่องข้าวต้มออกมาวางไว้ตรงหน้าผม “ แต่ฝีมือนายฉันไม่เอา กลัวกินแล้วตายน่ะ ^O^ “
ชิ! ยัยนี่วิ่งหนีเร็วชะมัด
++++++++++++++++++++
“ สวัสดี ^^ อาการเป็นยังไงบ้าง ดูสิหน้าซีดแย่แล้ว >< “
“ ขอบคุณค่ะพี่ริคุริ >_< พี่อากิระไม่มาด้วยเหรอคะ “
“ แหม๊ -_- อย่าพูดอย่างนั้นสิจ๊ะ ถ้าหมอนั่นมาก็แย่น่ะสิ “
“ จริงด้วยค่ะ ^_^ เราพักรบกันซักแป้บแล้วไปกินราเม็งกันมั้ยคะ “
ผมตระหนักได้ในวินาทีนี้แล้ว. .
ผู้หญิงเป็นเพศที่เข้าใจยาก!!!
ยังจำได้อยู่เลยใครกันมาร้องไห้ฟูมฟายว่าซากุระจะแย่งแฟนตัวเอง แล้วดูนี่สิ เมื่อตัดประเด็นอากิระทิ้งไป ดูเหมือนจะเข้ากันได้ดีซะด้วย
“ ว่าแต่. . .นี่มันอะไรกันเหรอคะ “ ซากุระถามเสียงไม่แน่ใจพลางชี้ๆไปที่กล่องข้าวต้มของผม ///>_“ อ๋อ “ ริคุริตอบ ดวงตาประกายขบขันแปลกๆ มองมายังผม “ มันคือข้าวต้มน่ะ สูตรสเปเชี่ยลฝีมือยูคิ ^^ พี่แนะนำว่าถ้าจะกินมันซากุระน่าจะลองเขียนพินัยกรรมเก็บไว้ ^^ เผื่อขาดใจตายน่ะ “
ซากุระมองกล่องข้าวต้มด้วยสายตาไม่เป็นมิตร ” มันกินได้แน่ใช่มั้ยคะ “
“ ได้สิ -_-^ ฉันใส่ของบำรุงลงไปเยอะแยะ “ ผมตอบด้วยเสียงเครียดๆ
“ พี่ยูคิคะ. . .ฉันมีเรื่องจะพูดด้วย ”
จู่ๆ ซากุระก็พูดโพล่งขึ้น
“ พูดกับฉันเหรอ -_- พูดมาเลยสิ “
“ ฉันจะคุยกับพี่สองคน. . .” พูดพลางมองริคุริอย่ามีความหมาย
ริคุริทำตาโตใส่ “ อ้อ! ได้สิจ๊ะ ^O^ คุยกันให้สนุกนะ “
ประตูห้องปิดลง คุณอย่าคิดเลยว่าคนอย่างริคุริจะเดินหลีกออกไปอย่างมีมารยาท ผมเอาหัวเป็นประกันได้เลยว่าตอนนี้ยัยนั่นกำลังหูผึ่งแนบติดประตูฟังผมและซากุระพูดทุกคำแน่ๆ
“ ขอบคุณสำหรับข้าวต้ม ^^ “ ซากุระพูดสั้นๆ
“ อืม “
ทำไมสิ้นคิดจังวะ! ผมน่าจะหาคำตอบที่ดีกว่านี้ เช่น หายไวๆ รักษาสุขภาพด้วย หรือไม่ก็ เป็นห่วงนะ อ๊ากส์ มันน่าจะเป็นคำตอบอะไรก็ได้ที่ไม่ใช่ ‘ อืม ’
แล้วแบบนี้. .. เมื่อไหร่เธอจะชอบผมกันล่ะ!!
“ แล้วนี่ฉันต้องเขียนพินัยกรรมไว้ก่อนใช่มั้ยเนี่ย -_- เผื่อกินแล้วตายจริงๆ “
“ ซากุระ “
“ คะ? “
“ มะ. .. ไม่มีอะไรหรอก “
ความจริงผมตั้งใจจะถามว่าเธอคิดว่าคำพูดบอกรักผมเป็นเรื่องตลกจริงรึเปล่า -_- แต่ผมว่า อย่าดีกว่ามั้ง
“ พี่ยูคิ ^^ ขอบคุณนะคะ “
“ ขอบคุณอะไรของเธอ “
“ ฉันขอบคุณพี่เรื่องสองปีก่อน ขอบคุณที่ทำให้ฉันรู้จักพี่อากิระค่ะ “
คิดถึงเรื่องนี้แล้วผมก็ยังเจ็บใจ ไม่รู้ผมคิดยังไงผมถึงได้พาอากิระมารู้จักกับซากุระ คงเป็นเพราะผมไม่คิดว่าเธอจะตกหลุมรักคนอย่างอากิระมั้ง
“ อืม ไม่เป็นไร “
“ ตลอดสองปีที่ผ่านมา ทำไมฉันถึงมองพี่อากิระเพียงแค่คนเดียวนะ “
‘ ? ‘
“ มีผู้ชายอีกตั้งเยอะแยะที่อยากจะมอบความรักให้ฉัน อยากจะดูแลปกป้องฉัน ทำไมฉันต้องไปชอบคนที่ไม่รักฉันด้วย “
ซากุระพูด เสียงเธอสั่นเครือเล็กน้อย ผมรู้สึกว่าเธอพูดจี้ใจดำผมจริงๆ
“ แต่ฉันก็ยังจะรักพี่อากิระค่ะ! “
ห๊า
ผมที่เพิ่งจะคิดสงสารซากุระ ตอนนี้เธอพูดเสียงเข้มแข็งตีหน้าขึงขังจริงจังใส่ผมเอาซะมากๆ ทำไมถึงดื้ออย่างนี้นะ. . .
“ ฉันจะไม่ตัดใจจนกว่าพี่เค้าจะแต่งงานมีลูกไปเลย >_< สู้ตายค่ะ!!! “
คุณจะรู้สึกยังไง เมื่อคนที่คุณแอบรักประกาศว่าจะไม่ตัดใจจากชายที่เธอชอบ จนกว่าเค้าจะแต่งงานไป. . .
ผมน้ำตาแทบจะไหลเลยล่ะ
“ ซากุระ “
“ คะ “
“ อย่าแกล้งโง่อีก. . .จะได้มั้ย “
นี่ผมกำลังจะพูดคำต้องห้ามออกไป -_- ผมอยากจะหยุดตัวเองไม่ให้พูดต่อ แต่ปากผมก็ยังขยับไปเรื่อยๆ พรั่งพรูคำพูดออกไปแบบลืมหายใจ
“ หยุดซะที เธอทำฉันเจ็บปวดมานานแล้วนะ “
“ พี่ยูคิ. . .พูดเรื่องอะไร “ ซากุระดูเหมือนจะกลัวผมหน่อยๆ
ผมก้มหน้านิ่ง
“ มองฉันบ้างสิ ซากุระ เธอมองฉันแค่นิดเดียวก็ยังดี อย่าแกล้งโง่อีกเลย เธอโง่ขนาดไม่รู้เลยเหรอว่าฉันคิดยังไง “
ผมได้ยินเสียง ปึก เบาๆมาจากประตู สงสัยริคุริคงตกใจคำสารภาพของผมจนช็อคคาโรงพยาบาลไปแล้ว -_- ผมไม่ได้ตั้งใจจะพูดมันออกไป มันหลุดออกมาเอง. . .
“ ฉันชอบเธอ ซากุระ “
ผมรอดูท่าทีซากุระ เธอดูไม่ตกใจอะไรมากนัก เพียงแค่ซีดลงกว่าเดิมก็เท่านั้นเอง ตอนนี้ดวงตาผมไม่รู้จะไปจ้องอะไรดี ผมเลยจ้องที่กล่องข้าวต้มของผมในมือของเธอแทน
“ นี่พี่ไม่ได้เล่นมุกใช่มั้ยคะเนี่ย ^^ “
เธอยังคงทำเป็นเล่นตามสไตล์ -_- ผมคิดผิดรึเปล่าเนี่ยที่จะพูดอะไรจริงจังกับซากุระ
“ ฉันไม่ได้ชอบพี่ค่ะ “
ซากุระตอบเรียบ รอยยิ้มของเธอเหือดหายไปกับคำพูดนี้พร้อมกับที่ใบหน้าที่ซีดๆของเธอ ดวงตากลมโตจ้องมาที่ผมแปลกๆ
“ อืม “ ผมตอบกลับ
ถึงจะเป็นการสารภาพรักแบบไม่ค่อยจะได้เตรียมการเท่าไหร่ แต่นี่ก็ดีแล้วแหละ ผมคิด ผมรู้สึกโหวงเหวงแบบแปลกๆในช่องท้องและตอนนี้สมองผมดูกลวงๆว่างเปล่ายังไงชอบกล ถึงจะไม่คิดว่าเธอจะชอบผมกลับก็เถอะ แต่ได้ยินคำพูดจากเธอตรงๆมันก็น่าใจหาย
“ ขอโทษจริงๆค่ะ “ ซากุระตอบเสียงเบาลงเรื่อยๆ
“ อืม “ แต่ผมกลับตอบกลับดังขึ้นเรื่อยๆ
อึดอัด . . . ความรู้สึกแบบนี้ อยากหนีไปให้พ้นๆ ซากุระจ้องที่ดอกไม้ในแจกันข้างๆเธออย่างเอาเป็นเอาตาย ส่วนผมจ้องอยู่ที่กล่องข้าวต้มในมือเธอที่ยังไม่ได้กินเลยแม้แต่น้อย
ไม่มีใครพูดอะไรออกมา
ความเงียบ. . .เป็นคำตอบของทุกสิ่ง อาจจะดีกว่าพูดออกมาเสียด้วยซ้ำ
“ กินข้าวต้มให้อร่อย ^^ ฉันไปล่ะ “ ผมบอกกับเธอก่อนจะเอื้อมมือไปที่ลูกบิดประตู
“ เอ่อ - - พูดถึงข้าวต้ม ฉันกินอย่างอื่นไม่ได้นอกจากที่โรงพยาบาลจัดให้ “ ซากุระตอบเสียงดังกว่ากระซิบนิดนึง
“ อืม “
แต่เสียงตอบรับของผมดังคับห้องแคบๆนี้แล้ว
ผมดึงข้าวต้มออกมาจากมือของเธอ ก่อนจะยิ้มให้แล้วก้าวฉับๆออกมาจากห้องโดยไม่หันกลับไปมองเธออีกเลย
++++++++++++
“ - - เอ่อ “
“ ... “
“ คือ “
“ ... “
“ อากาศดีจังเลยวันนี้ เนอะ! ยูคิคุง >< “
ยัยนี่ กวนตะกอนอารมณ์ผมจริงๆ
“ ยาซากิ ริคุริ -*- เธอใช้อะไรดูกัน ฝนตกอยู่นะ “
“ อะไรกันเล่า >< ฉันก็แค่อยากชวนคุย นายอย่าทำหน้าหงิกอย่างนั้นจะได้มั้ย อกหักแค่เนี้ยะทำเป็นจะตาย “ ริคุริร้องก่อนจะทำหน้าโหดใส่ผม
ผมนั่งอยู่หน้าโรงพยาบาล ออกไปไหนไม่ได้เพราะติดฝน ผมก้มลงมองกล่องข้าวต้มผมเป็นครั้งที่สามสิบสามแล้วตั้งแต่ออกมาจากห้องซากุระ
“ ริคุริ “
“ หืม “
“ อยากกินข้าวต้มฝีมือฉันมั้ย “
“ - - ไม่ล่ะ ขอบคุณ “
ริคุริตอบรวดเร็วจนลืมหายใจ
“ -_-^ เธอยังไม่ทันจะลองกิน! รู้เหรอว่ามันไม่อร่อย! ”
“ เหอะ -*- ฉันใช้สายตาเดาเอาน่ะ “
“ ลองดูสิ “ ผมพูดพลางยิ้มก่อนจะที่ตักขึ้นมา “ เอ้า ^O^ อ้าม “
เธอทำหน้าเหมือนตายดีกว่าที่จะกินมัน
“ ถ้าเธอกิน ^^ ฉันเลี้ยงหนัง!!! “
“ งาบ “
ริคุริกลืนข้าวต้ม เธอทำหน้าเหยเกราวกับโดนกรอกยาพิษ ก่อนที่เธอจะร้องออกมา
“ อร่อยนี่หว่า!! “
“ เห็นมั้ย ^^ มันผสมหลายอย่างเลยล่ะ เห็ดที่ดีต่อสุขภาพ ข้าวแบบสูตรพิเศษ สีไม่ค่อยน่ากิน ^^ แต่อร่อยล่ะสิ “
ห้านาที เธอก็ฟาดเรียบทั้งกล่อง ผมที่เห็นกล่องว่างเปล่ายิ้มพลางอวดภูมินิดๆ
“ เธอไม่รู้อะไรซะแล้ว ฉันน่ะทำกับข้าวเก่งไม่แพ้แม่ฉันเลยนะ ^^ ฮ่าๆ โง่ๆอย่าเธอทำได้ไม่ถึงครึ่งฉันหรอก “
ริคุริแยกเขี้ยว ทำท่าจะทุบผม แต่จู่ๆเธอก็หยุดก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆ
“ อะไรน่าหัวเราะ “
“ นายยิ้มแล้ว ^-^ ” ริคุริพูด
“ ยิ้มเหรอ “
“ ใช่สิ >_< อารมณ์ดีแล้วใช่ม้ะ หน้าตาก็ดีทำหน้าดุทำไมเล่า >_< ผู้หญิงเค้ากลัวนะ “
พออยู่กับริคุริ ผมลืมเรื่องเศร้าไปซะหมด - - แสดงว่าอยู่กับยัยนี่ชีวิตผมคงมีแต่เรื่องไร้สาระล่ะสิเนี่ย
“ ริคุริ . . .เธอได้ยินที่ฉันกับซากุระพูดทั้งหมดเลยรึเปล่า “
“ อืม. . .ทั้งหมดเลย “ ริคุริตอบพลางทำสีหน้าไม่สู้ดี “ ไอ้ที่ได้ยินชัดที่สุดนี่รู้สึกจะเป็น ‘ ฉันจะไม่ตัดใจจนกว่าพี่อากิระจะแต่งงานมีลูกไปเลย ‘ ตายแล้ว ฉันจะทำยังไงล่ะเนี่ย “
“ ฉันคงต้องตัดใจจากซากุระ ใช่รึเปล่า “
ผมถามเสียงซึมกะทือ
“ นายน่ะยึดยิดกับซากุระมากไปรึเปล่า นายน่ะเปิดตาให้กว้าง แล้วมองผู้หญิงคนอื่นซะบ้าง “
ผมทำท่าเป็นถลึงตามองไปรอบๆ ก่อนจะมาหยุดอยู่ที่เธอที่กำลังมองหาโรงหนังที่ใกล้ที่สุด
“ ฉันเห็นแต่เธอ -*- ริคุริ “
“ ไม่ใช่เปิดอย่างนี้ย่ะ ทำเป็นประชดคำพูดฉันรึไง “
“ เอ้า ^-^ ตามที่สัญญา ไปดูหนังกันมั้ย “
“ ไปกันเล้ยย “ ริคุริร้องลั่นจนคนเดินผ่านหันมามองแล้วออกแรงลากผมวิ่งไป
ผมไม่ได้ประชด
ผมเห็นแต่ริคุริจริงๆ
14
“ นี่เค้กที่ฉันทำเองเลยนะอากิระ >_< รับไว้หน่อยสิ “ เด็กสาวคนหนึ่งยัดกล่องเค้กใส่มือของผมพลางทำตาเป็นประกายวิ้งๆ


คุณคิดว่าผมจะทำยังไงต่อไป? ผมกำลังรีบมากๆ ยัยแก้มแดงปากชมพูแปร้ดนี่ก็มาเลี้อยพันแข้งพันขาผมอยู่ได้


“ ฉันไม่ชอบกินเค้ก!!! “

No comments: